ยัน 11.5 ตัน บางส่วนไม่ใช่ ยาเค! หลังตรวจสอบอย่างละเอียด ด้าน เลขาฯ ป.ป.ส. นำสื่อทดสอบสารเคมี
logo TERO HOT SCOOP

ยัน 11.5 ตัน บางส่วนไม่ใช่ ยาเค! หลังตรวจสอบอย่างละเอียด ด้าน เลขาฯ ป.ป.ส. นำสื่อทดสอบสารเคมี

TERO HOT SCOOP : นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการฯ ป.ป.ส.นำสื่อเข้าตรวจสอบห้องเก็บของกลางยาเค จำนวน 11.5 ตัน ที่ตรวจยึดได้ในโกดังแห่งหนึ่ง ใน.อ.บางปะกง ยาเค,จับยาเคล็อตใหญ่,จับยาเค

47,523 ครั้ง
|
21 พ.ย. 2563
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการฯ ป.ป.ส.นำสื่อเข้าตรวจสอบห้องเก็บของกลางยาเค จำนวน 11.5 ตัน ที่ตรวจยึดได้ในโกดังแห่งหนึ่ง ใน.อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน หลังแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งข้อสงสัยของกลางที่ยึดมาได้ หายไปไหน ซึ่งเลขาธิการฯ ป.ป.ส.ระบุว่า ของกลางถูกเก็บไว้ที่สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีผู้ควบคุมสามารถเข้า ออก ได้เพียง 2 คน พร้อมยืนยันว่า ในวันตรวจยึดพบของกลางทั้งหมด 475 กระสอบ ในจำนวนนี้มี 66 กระสอบที่เปิดไว้อยู่แล้วจึงนำตัวอย่างสุ่มตรวจด้วยน้ำยาทดสอบ ปรากฎว่าเป็นสารสีม่วง ซึ่งตรงกับยาเสพติด จึงตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้นไว้ก่อนว่าเป็นยาเค แต่หลังจากได้นำเข้าส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการอย่างละเอียด กลับพบว่าสารที่พบในโกดังไม่ใช่ยาเค แต่เป็นโซเดียม ฟอสเฟส หรือสารที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมอาหารและยา ซึ่งหลังจากนี้ ป.ป.ส.จะเข้มงวดตรวจบริษัทเคมีภัณฑ์ ที่นำเข้าสารชนิดนี้เข้ามาในประเทศไทย เพื่อป้องกันการสั่งมานำไปใช้ซุกซ่อนขนส่งยาเสพติด 
 
 
อย่างไรก็ตาม แม้ของกลางที่พบจากตรวจสอบ 66 กระสอบไม่ใช่ยาเค แต่อีก 400 กว่ากระสอบยังไม่ได้ตรวจสอบ ซึ่ง ป.ป.ส.เตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงหน่วยงานระหว่างประเทศเข้าทำการตรวจสอบร่วมกันภายในไม่เกินสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกัน ยังไม่สามารถบอกได้ว่าหลังตรวจสอบเสร็จสิ้นครบทั้ง 400 กว่ากระสอบจะมียาเคซุกซ่อนอยู่ภายในหรือไม่ เนื่องจากกระสอบของกลางที่พบคาดว่า เป็นของที่ถูกนำมาใช้บรรจุยาเคไว้ภายใน เพื่ออำพรางขนย้ายตบตาเจ้าหน้าที่เท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของทางการประเทศปลายทาง ที่จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยึดยาเคได้จำนวน 300 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เพราะทั้งบรรจุภัณฑ์และที่มา มาจากต้นทางเดียวกันคือประเทศไทย
 
 
ถึงแม้เบื้องต้น จะยังไม่พบสารซึ่งเป็นยาเค แต่ยืนยันว่า สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เพราะความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นความผิดระหว่างประเทศ โดยในวันจันทร์ที่ 23 พ.ย.นี้ ป.ป.ส.จะไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แต่เนื่องจากเป็นคดีระหว่างประเทศอำนาจการสอบสวนเป็นของอัยการสูงสุด
 
ขณะที่แนวทางการสืบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายค้ายาเคล็อตนี้ เบื้องต้นพบคนไทยเป็นผู้เช่าโกดัง 1 คน แต่ยังจับกุมตัวไม่ได้เพราะหลบหนีไป และไม่พบประวัติเคยก่อเหตุอาชญากรรมมาก่อน ซึ่ง ป.ป.ส.ทราบความเคลื่อนไหวแล้ว รวมถึงความเคลื่อนทางบัญชี จากนี้ ป.ป.ส.เตรียมจะเดินหน้ายึดทรัพย์พร้อมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการ และขอยืนยันอีกครั้งว่า เครือข่ายนี้ยังสืบไปไม่ถึงว่า ข้าราชกาม รหรือคนมีสี รวมถึงนักการเมืองจะเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ จนกว่าจะสามารถจับกุมคนเช่าโกดังมาได้และสืบสวนเป็นทอดๆไป
 
 
พร้อมกันนี้ เลขาธิการฯ ป.ป.ส.ยังระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้เสนอข่าวไปว่ามีการจับเคได้ล็อตใหญ่ แต่เมื่อผลการตรวจสอบกลับไม่ใช่ยาเค ป.ป.ส.ยืนยันว่า ทำทุกอย่างตามความเป็นจริง ที่ผ่านมาก็ได้เร่งดำเนินการมาโดยตลอด