ผู้เสียหายในคดีลักทรัพย์ พร้อมทนายรัชพล ร้อง ผบ.ตร.ให้ตั้งกรรมการสอบสวนและไล่ออกตำรวจ 2 นาย ที่เคยทำคดีลักทรัพย์ สน.ท่าข้าม เป็นเหตุให้ตกเป็นแพะ ก่อนศาลยกฟ้อง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายชิตพงษ์ วิทะไชย แพะในคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.ท่าข้าม พร้อมทนายความรัชพล ศิริสาคร เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ดำเนินการเอาผิดกับตำรวจ 2 นาย ซึ่งเป็นอดีตพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ยศร้อยตำรวจเอก และพันตำรวจโท ในขณะนั้น
ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานกระทำการในตำแหน่งมิชอบ เพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา รวมถึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและดำเนินคดีทางวินัย ลงโทษไล่ออกตำรวจทั้ง 2 นาย พร้อมกับนำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดยืนยันที่อยู่ของนายชิตพงษ์ ผลคำพิพากษา และคำเบิกความของพยานมามอบให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นหลักฐานในการเอาผิด
นายชิตพงษ์ เล่าว่า คดีนี้ตนเองทำงานเป็นพนักงานส่งเอกสาร ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปทำธุระส่งเอกสารตามธนาคารต่างๆ และระหว่างทางได้ขี่ผ่านบ้านที่ถูกลักทรัพย์ เจ้าทุกข์ได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับตนเอง แค่เพียงเพราะตนขี่รถผ่านหน้าบ้านเท่านั้น โดยตนก็ขี่ไปที่ธนาคารต่างๆ ตั้งแต่เวลาประมาณ 15 นาฬิกาเป็นต้นไป โดยมีกล้องวงจรปิดของธนาคารเป็นพยานยืนยันที่อยู่ตลอดช่วงเวลาที่เกิดเหตุ แต่กลับถูกตำรวจจับกุมในคดีลักทรัพย์ โดยอ้างอิงจากภาพวงจรปิดที่ตนเองขับผ่านบ้านที่เกิดเหตุมาดำเนินคดีกับตนเอง ซึ่งวงจรปิดดังกล่าวก็มีการตั้งเวลาที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และเมื่อตนมีการยืนยันเวลาช่วงเกิดเหตุว่า ตนทำธุรกรรมอยู่ที่ธนาคาร ตำรวจก็กลับพยามเปลี่ยนเวลาให้สอดคล้องกับตนเอง
โดยก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มาแล้ว เพื่อให้ดำเนินคดีทางอาญา และที่มาร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเอาผิดทางวินัยแล้ว ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 3 คนที่ต้องถูกดำเนินคดี ประกอบด้วยอัยการที่ดูแลคดีนี้ เจ้าของบ้านที่ถูกลักทรัพย์และลูกสาว ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิด และเบิกความเท็จต่อศาลด้วย
+ อ่านเพิ่มเติม