หนุ่มทำบัตรประชาชนหาย คนร้ายเก็บไปสวมรอยจนโดนคดียาเสพติด ทำให้ถูกตำรวจจับถึงสองครั้ง แม้จะยืนยันตัวตนแล้วว่าไม่ใช่คนร้ายตามที่ถูกกล่าวหา
วันที่ 3 เม.ย. 68 คุณ ประจักษ์ สาธุการ (จักษ์) ผู้ร้องทุกข์ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ทำกระเป๋าเงินหายเมื่อปี 2557 ในกระเป๋ามีบัตรประชาชน บัตร ATM เมื่อรู้ตัวว่าทำหายจึงรีบไปทำบัตรใหม่ แต่ไม่ได้แจ้งความ ต่อมาเมื่อปี 2564 ถูกตำรวจตั้งด่านแล้วนำบัตรประชาชนไปตรวจ แจ้งว่ามีหมายศาลตั้งแต่ปี 2559
คุณ เบญจวรรณ พุ่มลา (ฝน) ภรรยาของผู้ร้องทุกข์ เล่าว่า เมื่อวันที่คุณจักษ์ถูกจับแล้วไม่ให้ประกันตัว โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเคยประกันตัวไปแล้ว แต่ไม่ยอมมารายงานตัวตามที่กำหนด เมื่อไปตรวจสอบเอกสารพบว่าใบหน้าของคนร้ายตัวจริงกับลายนิ้วมือไม่ตรงกับสามี และนายประกันที่เคยมาประกันตัวก็ไม่เคยรู้จักกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงให้ประกันตัวออกมาสู้คดี
วันที่ 24 มี.ค. 2568 สามีถูกตำรวจบุกไปถึงที่ทำงาน แจ้งว่ามีหมายจับคดียาเสพติด จึงพากันไปยืนยันความบริสุทธิ์กับเจ้าหน้าที่ แต่ถูกจับส่งศาลเหมือนเดิม เคราะห์ดีที่มีเจ้าหน้าที่จำได้ว่าเคยถูกจับผิดตัว จึงช่วยดำเนินการให้ไม่ต้องประกันตัว แต่ไม่ได้รับคำขอโทษหรือเอกสารยืนยัน กังวลว่าจะถูกจับรองที่ 3 จึงไปขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด
คุณ นิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจฯ สายไหมต้องรอด เล่าว่า ผู้เสียหายแม้เคยถูกจับผิดตัวแล้ว แต่คดียังไม่สิ้นสุดเนื่องจากยังจับคนร้ายตัวจริงไม่ได้ พยานสำคัญของเรื่องนี้คือนายประกันที่เคยมาประกันตัวคนร้ายตัวจริงในครั้งแรก และครอบครัวคุณจักษ์ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ ทำให้ถูกตีตราว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถูกให้ออกจากงาน และเสียโอกาสไปทำงานต่างประเทศ
ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ทนายความ ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า เมื่อทำบัตรประชาชนหายแล้วทำบัตรใหม่ ทำให้บัตรใบเก่าที่คนร้ายนำไปสวมรอยจะขึ้นในระบบว่าเป็นบัตรเก่า คดีนี้มีการจับผู้ต้องหาผิดตัว ศาลจึงจำหน่ายคดีชั่วคราว เพื่อรอให้จับคนร้ายตัวจริง โดยคนร้ายตัวจริงกับคุณจักษ์มีลักษณะแตกต่างกันมาก แต่ยังมีการออกหมายจับคุณจักษ์รอบที่สอง
คุณ วัต นายประกันของผู้ก่อเหตุ ชี้แจงว่า ได้ไปประกันตัวผู้ต้องหาในคดีนี้จริง โดยแม่แจ้งว่าน้องสาวกับแฟนโดนจับในคดียาเสพติด ให้ไปช่วยประกันตัว เดินเรื่องอยู่นานกว่าจะได้ประกันตัวทั้งสองคนออกมา หลังจากนั้นไม่เคยเห็นฝ่ายชายอีกเลยเนื่องจากน้องสาวเลิกกับแฟนหลังมีคดีความ
คุณ โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย ให้ความเห็นว่า ในกรณีของคุณจักษ์ ที่ถูกสวมรอยจากบัตรประชาชนที่ทำหายแล้วถูกจับผิดตัว ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ศาลได้จำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อตามหาคนร้ายตัวจริง ขณะนี้ได้ดำเนินการประสานงานกับตำรวจให้ตามจับคนร้ายตัวจริงให้ได้ คาดว่าอาจจะไม่ใช่คนไทย ยืนยันพร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ไม่มีการถูกจับครั้งที่ 3 และสามารถไปทำงานต่างประเทศได้อย่างแน่นอน
คุณ เกด (นามสมมติ) น้องสาวของวัต ชี้แจงว่า ตนถูกจับพร้อมกับอดีตแฟนจริงเมื่อปี 2559 หลังจากถูกจับจึงได้ทราบว่าฝ่ายชายเป็นชาวลาวไม่ใช่ชาวไทย ยืนยันว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการสวมบัตรประชาชนของคนอื่น หลังจากนั้นไม่นานได้เลิกกันแต่ยังรู้ว่าปัจจุบันเจ้าตัวอยู่ที่ไหน จากข้อมูลในโซเชียลมีเดีย
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม