T Mark เสริมแกร่งแบรนด์ไทย พร้อมสู้ในสมรภูมิ Cross-border e-commerce
logo TERO HOT SCOOP

T Mark เสริมแกร่งแบรนด์ไทย พร้อมสู้ในสมรภูมิ Cross-border e-commerce

1,778 ครั้ง
|
09 ก.ย. 2563
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราอยู่ในยุคที่อีคอมเมิร์ซเข้ามามีบทบาท เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต วิธีการเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ หลายคนแทบจะใช้เวลาส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นและจบง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถซื้อของได้มากมายตามที่ใจต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนเริ่มพลิกบทบาทจากคนซื้อ มาเป็นคนขายตามแบบฉบับ E-Marketplace ทำให้การทำธุริจเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด การขายสินค้าในประเทศดูเริ่มจะไม่เพียงพอหากต้องการขยายธุรกิจให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการหลายคนจึงหาช่องทางเพิ่มโอกาสให้สินค้าและธุรกิจของตนเองได้เติบโต โดยเริ่มหันมาสนใจการขายแบบ Cross-border e-commerce 
 
 
Cross-border e-commerce เป็นการขายสินค้าแบบทั้งนำเข้าและส่งออกผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Aliexpress หรือเจ้าพ่อแห่งอีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon เรียกได้ว่าการพาธุรกิจไปสู่ตลาดโลกเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น แต่การพาธุรกิจสู่ตลาดโลกอย่างแข็งแรงดูยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้ประกอบการไทย บทความนี้จะพาไปไปรู้จักกับ T Mark ตราสัญลักษณ์ที่พร้อมจะเป็นตัวช่วย ผลักดันให้ธุรกิจของคุณก้าวไปแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างภาคภภูมิ 
 
 
Thailand Trust Mark (T Mark) เป็นตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพมาตรฐานสากลที่รับรองสินค้าและบริการของไทย ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ภายใต้แนวคิด “Trusted Quality” ที่การันตีคุณภาพสินค้าไทยที่ทั่วโลกไว้วางใจในทุกด้านประกอบด้วย คุณภาพสินค้าและบริการที่ได้รับมาตรฐานสากล ได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทย (Fair Labour) มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environmental Concern) และที่ขาดไม่ได้คือ Heart Made Quality คือสิ่งรับรองว่าสินค้าและบริการเหล่านี้ใส่ใจในการผลิตและเป็นสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย
 
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการในต่างประเทศมากมาย อาทิ การเข้าร่วมกิจกรรม “ส่งเสริมสินค้า ไทยเพื่อเข้าสู่ช่องทาง E-Commerce ร่วมกับ JD.com” ผู้ประกอบการจะได้เรียนรู้เคล็ดลับการทำการค้าออนไลน์ในประเทศจีนที่เรียกได้ว่าเป็นตลาดการค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สดุในโลก เพื่อให้เข้าถึงกล่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดจีน ได้แก่ บริษัท Jingdong เจ้าของ JD.com เว็บไซต์ E-Commerce รายใหญ่ของจีน และศนูย์ TSTC ซึ่งเป็นศนูย์แสดงสินค้าไทยและสินค้าที่ได้รับ ตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) ในเมืองโฝซาน มณฑลกวางตุ้ง โดยปัจจุบันมีร้านค้ากว่า 61 ร้าน เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ อีกทั้งยังได้ทำความรู้จัก “Thailand Pavilion” เป็นหน้าร้านสินค้าไทยคุณภาพบนเว็บไซต์ JD.com ซึ่งเป็น แพลตฟอร์ม E-Commerce แบบ B2C ที่เป็นที่นิยมของจีน ซึ่งกรมฯ ได้จัดทำขึ้นอีกหนึ่งช่องทางเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่มีสินค้าคณุภาพสามารถจำหน่ายสินค้าโดยตรงไปยังผู้บริโภคในตลาดจีน 
 
 นอกจากนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการ TopThai Flagship Store บน Tmall.com วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการนำสินค้าที่มีศักยภาพในตลาดจีนไปวางขาย เพื่อเปิดตลาดสินค้าส่งออกของไทยไปยังตลาดจีนผ่าน Cross-border e-commerce Platform แน่นอนว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วม 
 
ไม่ว่าจะเป็นโอกาสการทดลองตลาดและศึกษาระดับความต้องการสินค้าบริษัทในตลาดจีน ด้วยต้นทุนที่ต่ำก่อนการตัดสินใจรูปแบบการลงทุนใน ระยะยาวต่อไป รวมถึงสามารถวิเคราะห์ตลาด จากระบบฐานข้อมูลและสถิติการค้า ทั้งกลุ่มลูกค้า พฤติกรรมผู้บริโภค และสินค้ายอดนิยม เพื่อนำมาวิเคราะห์หาแนวทางที่เหมาะสมในการทำการตลาดให้สินค้าของตนเองต่อไปได้  
 
 
ตราสัญลักษณ์ T Mark จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในใจผู้บริโภคในตลาดโลกได้ เพราะทำให้เกิดความชัดเจนถึงมาตรฐานที่หน่วยงานรัฐบาลไทยให้การรับรองแบรนด์ของผู้ประกอบการ อีกทั้งยังสร้างเอกลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าไทย เมื่อต่างชาติเห็นตราสัญลักษณ์นี้ก็สามารถรับรู้ได้ว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเป็นเลิศ 
 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเปิดตลาดต่างประเทศ แต่สินค้าและบริการยังไม่เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ตราสัญลักษณ์ T Mark จะเป็นเครื่องหมายการันตีว่า นี่คือสินค้าและบริการที่มีคุณภาพระดับสากล ผ่านกระบวนการผลิตที่ดี ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และใช้แรงงานที่เป็นธรรม ซึ่งผู้บริโภคในหลายประเทศนั้นต่างตระหนักและให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้ และต้องการสนับสนุนสินค้าและบริการเหล่านี้เป็นพิเศษ ดังนั้นการติดสัญลักษณ์ T Mark ก็เสมือนเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 
 
และท้ายที่สุด ผลดีก็จะตกอยู่กับการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจชาติไทยให้เติบโตในภาพรวม ทั้งผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่  ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มั่นคงแข็งแกร่งและเติบโตไปข้างหน้าในที่สุด
 
 
หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการติดตราสัญลักษณ์  T Mark สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://thailandtrustmark.com