T Mark รับรางวัลเลิศรัฐ สาขาบริการภาครัฐ ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านบริการผู้ประกอบการส่งออกของไทย
logo TERO HOT SCOOP

T Mark รับรางวัลเลิศรัฐ สาขาบริการภาครัฐ ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านบริการผู้ประกอบการส่งออกของไทย

3,153 ครั้ง
|
16 ก.ย. 2563

โครงการสร้างแบรนด์ประเทศไทยผ่านสินค้าและบริการที่มีคุณภาพที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) คว้ารางวัลเลิศรัฐ สาขาบริการภาครัฐ ประจำปี 2563 อีกหนึ่งรางวัลเกียรติยศของคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เพื่อมอบให้หน่วยงานที่ได้มุ่งมั่นปฏิบัติราชการจนประสบความสำเร็จมีความเป็นเลิศในการดำเนินงานต่าง ๆ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ อิมแพค เมืองทองธานี

 

 

โดย "รางวัลเลิศรัฐ" (Public Sector Excellence Awards : PSEA) รางวัลของคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เป็นรางวัลแห่งเกียรติยศที่มอบให้หน่วยงานที่ได้มุ่งมั่นปฏิบัติราชการจนประสบความสำเร็จมีความเป็นเลิศแห่งหน่วยงานรัฐทั้งปวง รางวัลเลิศรัฐจะมอบให้แก่หน่วยงานที่พัฒนาคุณภาพการให้บริการ และระบบการบริหารงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม และเป็นที่พึงพอใจให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งส่งเสริมการบริหารราชการให้มีระบบหรือวิธีการที่ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชน จนเกิดการทำงานร่วมกันในลักษณะหุ้นส่วนความร่วมมือ ตลอดจนพัฒนาระบบราชการให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน โดยรางวัลเลิศรัฐ แบ่งเป็น 3 สาขา ได้แก่ 1.รางวัลบริการภาครัฐ 2.รางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมและ 3.รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ

 

 

สำหรับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) ดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพมาตรฐาน ที่สร้างความน่าเชื่อถือสำหรับสินค้าและบริการไทยที่รับรองคุณภาพสินค้าไทยที่ทั่วโลกไว้วางใจในทุกมิติ ประกอบด้วยคุณภาพสินค้าและบริการที่ได้รับมาตรฐานสากล ได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทย (มรท 8001-2563) มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวและเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี โครงการ  Thailand Trust Mark มุ่งมั่นผลักดัน พัฒนา ยกระดับผู้ประกอบการไทย ให้ผลิตสินค้าที่มีศักยภาพทัดเทียมสากล ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ การจัดกิจกรรม T Mark Clinic เพื่อให้คำปรึกษาเชิงลึกสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสมัครขอรับตราสัญลักษณ์ T Mark รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมตราสัญลักษณ์ T Mark โดยบุกตลาดจีนทั้งเมืองหลักและเมืองรองอย่างต่อเนื่อง อาทิ เมืองเซี่ยงไฮ้ (งาน CiiE) กิจกรรม Business Matching ณ เมืองกวางโจว กิจกรรมสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อสินค้าไทย ณ เมืองคุนหมิงและหนานหนิง รวมถึงการเขียนบทความเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark เพื่อเผยแพร่ในเว็บไซต์และ wechat จีน นอกจากนี้ยังจัดทำวิดีโอคลิปแนะนำตราสัญลักษณ์ T Mark บนช่องทาง TikTok อีกด้วย  ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ T Mark ในประเทศจีน เพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงและจดจำตราสัญลักษณ์ T Mark และเกิดความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการจากประเทศไทยมากขึ้น

 

 

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงรางวัลในครั้งนี้ว่า “รางวัลเลิศรัฐเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ กว่าจะได้รับรางวัลในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย การได้มาซึ่งรางวัลนี้กรมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ผ่านเกณฑ์การพิจารณา ซึ่งก็เป็นไปตามวิสัยทัศน์และพันธกิจของโครงการ Thailand Trust Mark ที่มุ่งเน้นการให้บริการผู้ประกอบการเป็นหลักอยู่แล้ว ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี โครงการ  Thailand Trust Mark มุ่งมั่นผลักดัน พัฒนา ยกระดับผู้ประกอบการไทย ให้ผลิตสินค้าที่มีศักยภาพทัดเทียมสากล ในส่วนของโครงการ Thailand Trust Mark ปี 2564 เน้นการประชาสัมพันธ์ T Mark แบบครบวงจรและปรับปรุงระบบฐานข้อมูลสมาชิก T Mark เพื่อให้ทราบฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันของผู้ประกอบการ สำหรับการประชาสัมพันธ์เชิงรุกต่อไป

 

ปัจจุบันมีบริษัทผลิตสินค้าและบริการของไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark แล้วกว่า 834 บริษัท ใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมอาหารและเกษตร 2.อุตสาหกรรมหนัก 3.อุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์
4.อุตสาหกรรมแฟชั่น 5.อุตสาหกรรมทั่วไป 6.ธุรกิจรักษาพยาบาล 7.ธุรกิจส่งเสริมสุขภาพ และ 8.ธุรกิจบริการการศึกษา นานาชาติ ซึ่งสมาชิกของ Thailand Trust Mark ทั้งหมดเรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนโครงการให้ประสบความสำเร็จในวันนี้”   

 

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ขอขอบคุณคณะกรรมการทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสมาชิกทุกทาน ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จ จนนำไปสู่ความภาคภูมิใจในครั้งนี้ ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้ก้าวไกลในตลาดโลกต่อไป