วานนี้ (13 ส.ค. 63) 4 คีย์แมนคนสำคัญในการสั่งไม่ฟ้องคดีบอส อยู่วิทยา มาชี้แจงคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ และคณะกรรมาธิการศาล องค์กรอัยการฯ ของสภาผู้แทน ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลครั้งแรก ประกอบไปด้วย นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด, พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน, นายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความของนายบอส และ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร.
นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ โดยนายเนตรยืนยันมีอำนาจสั่งสอบเพิ่มเติมในคดี สั่งไปในฐานะอัยการสูงสุด ส่วนการสั่งไม่ฟ้องคดี สั่งในฐานะรองอัยการสูงสุด โดยยืนยันว่าการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธนั้น เป็นไปตามพยานหลักฐานในสำนวน คือเรื่องความเร็ว โดยมีพยานส่วนอื่นที่ยืนยันว่าความเร็วรถไม่เกินที่กฎหมายกำหนด (80 กม./ชม.) คือ ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม, พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร และนายจารุชาติ มาดทอง และมีพยานหลักฐานว่าการชนเกิดจากการเปลี่ยนเลนกระทันหันของผู้ตาย จึงถือเป็นเหตุสุดวิสัย
ส่วน พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ตรวจความเร็วรถ และให้ข้อมูลความเร็วรถของนายวรยุทธเปลี่ยนไป 3 รอบ โดยสาเหตุที่เปลี่ยนความเร็วในครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2559 จาก 177 กม./ชม. เป็น 79.23 กม./ชม. อ้างอิงจากทฤษฎีของ ดร.สายประสิทธิ์ เพราะเห็นว่าเป็นอาจารย์จึงเชื่อ และยังมีการพาบุคคลหนึ่งที่ไม่ขอเอ่ยชื่อมาพบตนที่ห้องทำงานของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ทำให้ต้องคำนวณความเร็วรถใหม่ตามสูตรของ ดร.สายประสิทธิ์
ต่อมา จากการตรวจสอบสูตรของ ดร.สายประสิทธิ์ พบว่ามีความผิดพลาดถึง 46% จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 59 ว่าขอกลับไปใช้ตัวเลขความเร็วตามเดิม คือ 177 กม./ชม. และได้มีการแจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบ แต่พนักงานสอบสวนบอกว่าส่งสำนวนให้อัยการแล้ว และคดีความเร็วหมดอายุความแล้ว
ขณะที่นายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความของนายบอส เปิดเผยว่า ในการรายงานของ สนช.ให้อัยการ ปกติจะไม่เข้าสำนวนก็ได้ แต่ทนายเห็นว่าการฟ้องคดีอาญา พยานหลักฐานต้องอยู่ในสำนวน ศาลจึงจะรับฟัง จึงยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมอีกฉบับให้พนักงานสอบสวนสอบส่วนพยานชุดที่ สนช.สอบสวน เพื่อเป็นพยานหลักฐานในสำนวน จึงมีข้อมูลส่วนนี้เข้าไปอยู่ในสำนวน
ส่วนประเด็นที่ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ไม่เห็นแย้งอัยการที่ไม่สั่งฟ้องนายบอสนั้น ยืนยันว่าได้ใช้ดุลยพินิจโดยสุจริต ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ส่วนที่ไม่แย้งนั้นเหตุเพราะทุกลำดับชั้นมีความเห็นตรงกัน
แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า มี ตร. 14 นายบกพร่องต่อการทำหน้าที่ในคดีนี้ โดยพลตำรวจโทจารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมเสนอให้ลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาแล้วด้วย
+ อ่านเพิ่มเติม