ตร.แจงปมไม่สั่งฟ้อง 'บอส' เรื่องโคเคน ด้านทันตแพทย์ยันไม่เคยใช้โคเคนในการรักษา
logo ข่าววันใหม่

ตร.แจงปมไม่สั่งฟ้อง 'บอส' เรื่องโคเคน ด้านทันตแพทย์ยันไม่เคยใช้โคเคนในการรักษา

ข่าววันใหม่ : ตร.แจงปมไม่สั่งฟ้อง บอส เรื่องโคเคน ด้านทันตแพทย์ยันไม่เคยใช้โคเคนในการรักษา โคเคนรักษาฟัน,ทันตแพทย์,บอสอยู่วิทยา

526 ครั้ง
|
01 ส.ค. 2563
พลตำรวจเอก ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการฯ ชี้แจงเรื่องผลตรวจสารโคเคอีนที่พบในเลือดของ นาย บอส หลังเชิญตัวแทนจากทันตแพทยสภา มาตอบข้อซักถามที่เกี่ยวข้องกับการใช้โคเคนรักษาฟัน 
 
 
โดยสรุปผลว่า แพทย์ไม่ได้จ่ายยาที่มีส่วนผสมของโคเคอีน แต่สารโคเคอีนจะมาจากยาปฏิชีวนะ หรือ มาจากการเสพโดยตรงยังต้องรอการตรวจพิสูจน์ เพราะตำรวจไม่มีความชำนาญมีรายงานว่า ยาชาที่มีส่วนผสมของโคเคนมีใช้อยู่ แต่ใช้กับสัตว์เท่านั้น ไม่มีใช้ในคนสำหรับพยานปากสำคัญ คือ นาย จารุชาติ มาให้ปากคำวันที่ 8 กันยายน 2555 เป็นพยานเก่า ที่มาให้ปากคำเพราะทราบข่าวจึงมาให้ปากคำ แต่ครั้งแรกไม่ได้ให้ปากคำเรื่องความเร็ว เพิ่งจะมาให้ครั้งที่ 2 คือ เมื่อเดือนธันวาคม 2562 และการเสียชีวิตก็ไม่มีผลต่อคดี
 
 
ส่วนพลอากาศโทอีกคน ได้มาให้ปากคำ 8 กรกฎาคม 2558 หลังพนักงานสอบสวนเสนอสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปแล้ว
 
 
ขณะที่ พันตำรวจโท พจนารถ พุ่มประกอบศรี นายกทันตแพทยสภากล่าวว่า ในอดีตเคยใช้โคเคน เป็นยาชาแต่ต่อมาพบว่า มีผลข้างเคียงมากจึงเลิกใช้ และ ตั้งแต่ตั้งทันตแพทย์สภาก็ไม่เคยใช้โคเคนเป็นยาชาเลย เพราะมียาตัวอื่นที่ดีกว่า และไม่มีผลต่อร่างกาย ทั้งนี้มีจุดที่น่าสนใจ คือยาชาส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วยเคน เช่น ลิโดเคน ไพแมเคน ซึ่งหากคนที่ไม่มีความรู้ก็อาจจะเข้าใจได้ว่าเป็นโคเคน แต่จริงๆไม่ใช่ เพราะโคเคนเลิกใช้เป็นเกือบ 100 ปี แล้ว
 
 
ด้าน รองศาสตราจารย์ดอกเตอร์วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่าเมื่อเสพโคเคน กระบวนการในร่างกายจะเปลี่ยนเป็นสารที่ชื่อว่า "เบนโซอิล เอคโคไนน์" หากดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปก็จะเปลี่ยนเป็น "โคคาเอธิลีน" ซึ่งสารทั้งสองตัวนี้ตรวจเจอจากผลการตรวจเลือดของนายวรยุทธ แต่หากเป็นยาชา "ลิโดเคน" สารเคมีที่จะพบคือ "นอลิโดเคน" ซึ่งไม่พบการในตรวจเลือด ดังนั้นสารที่พบไม่ได้มาจากยาชาที่ทันตแพทย์ใช้แต่มาจากจากโคเคนที่เป็นสารเสพติดขณะที่กรมอนามัยเปิดเผยว่า ยาชาที่ใช้ในช่องปากมีปริมาณที่น้อบกว่า 1.8 มิลลิลิตร และะออกฤทธิ์ไม่เกิน 6 ชั่วโมง ก่อนจะหายไปและตรวจไม่พบ
 
 
ด้านทันตแพทย์สัณห์ชัย จิรชาญชัย ประชาสัมพันธ์ทันตแพทยสภา เปิดเผยข้อมูลล่าสุด ว่าทันตแพทย์ผู้รักษานายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ได้ประสานมายังทันตแพทยสภา ยืนยันว่าได้รักษาทันตกรรมให้นายบอสจริง เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2555 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ 5 วัน
 
 
ส่วนยาที่ใช้ในวันนั้นได้ฉีดยาชา เมพิวาเคน (Mepivacaine) และจ่ายยาแก้อักเสบ อะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) จำนวน 15 เม็ด ยืนยันยาทั้งหมดที่ใช้รักษา ไม่มีส่วนประกอบของโคเคน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดตำรวจได้เดินทางมาสอบปากคำที่คลินิค และทันตแพทย์ผู้รักษาก็ได้ให้ข้อมูลทั้งหมดกับตำรวจไปเมื่อ 8 ปี ที่แล้วชัดเจน
 
 
แต่ล่าสุดเมื่อเห็นข่าว ที่ตำรวจระบุว่า ทันตแพทย์มีการใช้ยาที่มีส่วนผสมของโคเคน จึงทำให้ทันตแพทย์ผู้รักษานายบอส เกิดความไม่สบายใจ เครียดจนนอนไม่หลับ จึงประสานแจ้งข้อเท็จจริงมายังทันตแพทยสภา พร้อมเตรียมเข้าให้ข้อมูลคณะกรรมาธิการการตำรวจ ถึงข้อเท็จจริงที่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ส่วนทันตแพทยสภา จะนำทันตแพทย์คนดังกล่าวมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกัน เพราะทันตแพทย์คนดังกล่าวอยู่ต่างจังหวัด มีภาวะเครียดมาก ทันตแพทยสภาจึงให้เวลาทันตแพทย์พักผ่อน ให้เกิดความสบายใจก่อน
 
 
ส่วนเรื่องยาชาทันตกรรม ที่ใช้โคเคนในการรักษา ประชาสัมพันธ์ทันตแพทยสภา ยืนยันว่าไม่มีทันตแพทย์รายใดมียาตัวนี้ เพราะเป็นยาที่วงการทันแพทย์เลิกใช้นานมากแล้ว ทันตแพทยสภาต่างก็สงสัยว่าตำรวจให้ข้อมูลเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร
 
 
รับชมผ่านทางยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/3QXAccST7Vk