เพชรบูรณ์ - เฟซบุ๊ก โพสต์เตือนเด็ก 14 พกมีดไถเงินจับหน้าอกผู้หญิง ขณะครู และชาวบ้านเผย เด็กชอบขอเงิน แต่ไม่ใช่ความรุนแรง ส่วนเรื่องชอบจับหน้าอก จับก้นผู้หญิง ยอมรับว่าเคยก่อเหตุจริง แต่ผ่านมาหลายปีแล้ว
วันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ความคืบหน้ากรณี โลกโซเชียลได้มีการโพสต์และเตือนให้ระวังบุคคลอันตราย ที่อาจจะก่อเหตุกับเด็กและสตรี และบุคคลทั่วไป เนื่องจากบุคคลดังกล่าว มีการพกพาอาวุธมีดไปในพื้นที่เขตตำบลวังชมภู อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งหนังสือดังกล่าวมีข้อความระบุว่า เรื่องรายงานและเฝ้าระวังผู้ที่มีพฤติกรรมอันตราย เนื่องด้วย เด็กชายเอ (นามสมมุติ) เป็นบุคคลอันตรายเสี่ยงต่อความปลอดภัยของนักเรียนคณะครูและบุคคลทั่วไป
ซึ่งในวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 บุคคลดังกล่าวได้เข้ามาทำพฤติกรรมที่เป็นอันตรายเสี่ยงต่อความปลอดภัยของนักเรียนและคณะครู คือได้พกพาอาวุธของมีคม ข่มขู่นักเรียน ส่งผลให้เกิดความตกใจและหนึ่งในคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานดังกล่าว ได้มีการประชุมและมีมติให้โรงเรียนจัดทำหนังสือแจ้งหน่วยงานและผู้มีอำนาจทางการปกครอง ในเขตตำบลวังชมภู เพื่อขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัยของเด็กชายคนดังกล่าว
ด้านนายสุกิจ เมฆประยูร ผอ.โรงเรียนบ้านยาวี-ห้วยโป่งกล่าวว่า การที่โรงเรียนออกหนังสือเตือน เพราะเด็กมีพฤติกรรมเสี่ยง อาจก่อให้เกิดอันตราย จึงมีการประชุมกับทางคณะกรรมการสถานศึกษา และมีการเฝ้าระวัง เรื่องที่ได้ยินมากสุดคือเรื่องการชอบขอเงิน แต่ไม่รู้ว่าในอนาคต จะก่อความรุนแรงมากน้อยเพียงใด
ทางด้านนายประสงค์ รางทอง อายุ 52 ปี พ่อของเด็ก ยอมรับว่าเคยได้ยินพฤติกรรมของลูกชายอยู่บ้าง เกี่ยวกับเรื่องการขอเงิน การชอบลวนลาม ผู้หญิง จับโน่น จับนี่ แต่ก็ไม่บ่อย เคยว่ากล่าวลูกชาย แต่ก็เหมือนเดิม ขณะที่เด็กชายเอผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าไปขอเงินชาวบ้านจริง แต่ไม่เคยไปลวนลามจับหน้าอกหรือจับก้นผู้หญิง
โดยในวันนี้ (22 ก.ค.63) เจ้าหน้าที่ตำรวจ นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้นำชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษาได้ร่วมประชุมที่ โรงเรียนบ้านยาวี-ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยเบื้องต้น ที่ประชุม กล่าวว่า เรื่องของน้อง ส่วนหนึ่งต้องให้ครอบครับ และชุมชนช่วยกันดูแลเด็กด้วย
ขณะเดียวกันก็จะทำการรับตัวน้อง ไปตรวจสุขภาพจิต และตรวจสุขภาพ ในวันพรุ่งนี้ ในเวลา 09.00 น. ขณะที่ รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เพชรบูรณ์ เขต 1 ก็เตรียมหาทางช่วยเหลือโดยให้เด็กได้มีโอกาสกลับไปเรียนหนังสือ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาทางสังคม ในอนาคต ต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม