เรื่องความสวยความงามของสาวๆ ที่ไม่ว่าจะผมสั้น ผมยาวก็ต้องพึ่งพายางรัดผมกันเสมอ ซึ่งตลาดของยางรัดผมที่เห็นเป็นเส้นเล็กๆนั่น กลับทำมูลค่าได้อย่างไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ถ้าจำกันได้แฟชั่นนิสต้าตัวแม่ อย่างคุณชมพู่ อารยา แม่ของ 2 แฝดสายฟ้า-พายุ ที่ไม่ว่าจะหยิบจับ ใส่อะไร ก็กลายเป็นเทรนด์ให้แฟนๆ ได้ตามล่าหามาครอบครองตาม อย่างเช่นปรากฎการณ์ก่อนหน้านี้ ที่สาวชมพู่ นำโบว์ Chanel มามัดผมหางม้า ในการไปชมแฟชั่นโชว์แบรนด์ Chanel ในงาน Paris Fashion Week 2020 ที่ผ่านมา ก็เกิดเป็นลิสต์สินค้าสุดฮอตสำหรับคุณผู้หญิงสายแฟชั่นทั้งหลาย
และยังคงเป็นแม่ชมอีกเช่นเคย ที่นำเทรนด์ยางรัดผมสครันชี่ หรือ ยางรัดผมโดนัท แฟชั่นจากยุค 90 ให้ถูกปัดฝุ่น กลับมาฮิตอีกครั้งในยุค 2020 แถมมากันแบบไซส์ใหญ่กว่าเดิม ที่เมื่อใช้แล้วจะเห็นเด่นมาแต่ไกล แถมแมตช์กับชุดที่ใส่ ช่วยให้ดูดียิ่งขึ้นไปอีก จนกลายเป็นแอคเซสเซอรี่ที่มาแรงแซงโค้งของสาวๆในยุคนี้ เพราะโดนป้ายยาจากแม่ชม รวมไปถึงเหล่าเซเลป เน็ตไอดอลก็ไม่พลาดร่วมเทรนด้วย ส่งผลให้ร้านขายเครื่องประดับ รวมถึงร้านขายเสื้อผ้าต่างก็พากันแห่ขายเจ้าก้อนโดนัทมัดผมกันเต็มไปหมด
ด้วยราคาที่สามารถจับต้องได้ของสาวทุกอาชีพ ทุกวัย ทำให้ยางรัดผมจัมโบ้ขายดีสุดๆ อีกทั้งขั้นตอนการทำก็แสนง่าย ต้นทุนต่ำถูกใจพ่อค้าแม่ขาย ไม่ว่าจะสั่งจากโรงงานหรือจะทำขายเองก็ไม่เป็นปัญหา ทำให้ผู้ประกอบการใช้โอกาสนี้ผลิตยางรัดผมลักษณะนี้ มาขายทำกำไรกันถ้วนหน้า ทั้งที่มีหน้าร้าน และขายผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่วงการยูทูปเบอร์เองก็ต่างทำคลิปสอนทำสินค้าสุดฮิตนี้กันอย่างล้นหลาม
นอกจากเจ้ายางรัดผมโดนัทนี้แล้ว ยังมียางรัดผมที่ฮิตไม่แพ้กัน ได้แก่ ยางรัดผม Invisibobble ที่หลายคนบอกว่าเป็นยางรัดผมที่ใช้แล้วสบายผม ผมไม่หักงอ และที่สำคัญรัดแล้วไม่ทำให้ปวดหัว เมื่อใช้ไปนานๆแล้วเกิดยางยืด หากเอาไปแช่ในน้ำร้อน เจ้ายางก็จะกลับสู่สภาพเดิม ต่างจากยางรัดผม 5 บาท 10 บาทตามตลาดนัด
ยางรัดผม Invisibobble จะขายเป็นกล่องๆละ 3 เส้น ราคาประมาณ 200 กว่าบาท หลายคนแทบไม่เชื่อว่าเราจำเป็นต้องซื้อยางรัดผมกันในราคาหลักร้อยกันเลยหรือ? แต่เชื่อไหมว่ามีสาวๆจำนวนมากยอมจ่ายเงินให้กับเจ้ายางรัดผม Invisibobble นี้
ซึ่งมีหลายรุ่นให้เลือกซื้อกัน โดยแต่ละรุ่นมีเอกลักษณ์แบ่งตามลักษณะของผมแต่คน โดยแบ่งคร่าวๆ ได้ดังนี้
- รุ่น Original ราคา 215 บาท เหมาะสำหรับทั้งผมหนาและผมบาง ใช้งานง่าย มีหลากหลายสีสัน
- รุ่น Power ราคา 255 บาท เหมาะสำหรับคนที่ผมหนาๆ รัดแน่นๆ เหมาะกับสายออกกำลังกาย จะวิ่ง จะกระโดด หรือทำกิจกรรม outdoor ก็ไม่มีหลุด และเหมาะกับสาวๆผมหนาๆอีกด้วย
- รุ่น Slim ราคา 235 บาท รุ่นนี้ยางบางและขนาดเล็กกว่ารุ่นอื่น ตัวยางวงไม่กว้างมาก ยืดหยุ่นสูง ไม่รัดข้อมือจนเกินไป สามารถใส่เป็นกำไลประดับข้อมือได้เลย
- และรุ่น kids ราคา 215 บาท รุ่นล่าสุดเอาใจเด็กๆ เป็นสีสายรุ้ง พาสเทลวิ้งๆบ้าง น่ารักโดนใจหนูๆและสาวๆสายมุ้งมิ้ง
ลองย้อนดูจุดกำเนิดของยางรัดผม Invisibobble ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว เมื่อโซฟี ทาลส์ ทิลด์ ชาวเดนิช สาวมหาวิทยาลัยที่นิยมการปาร์ตี้ ที่มีวันหนึ่ง เธอเหลือบไปเห็นโทรศัพท์เก่าๆ ในหอพัก จึงดึงสายโทรศัพท์ออกมาผูกแล้วทำเป็นที่รัดผมก่อนออกไปปาร์ตี้ เช้าวันต่อมา เธอตื่นขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังรวบผมอยู่ แต่กลับไม่มีอาการปวดหัวแบบที่เคยเป็น และเมื่อเอาสายโทรศัพท์ที่มัดผมออก ผมก็แทบไม่มีรอยจากการมัด ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา
ทำให้โซฟีในวัย 18 ปีในขณะนั้น ปิ๊งไอเดียว่าเจ้ายางรัดผมสายโทรศัพท์นี้จะต้องเป็น accessory ที่ได้ใจผู้หญิงส่วนใหญ่แน่นอน จึงได้ชวนเพื่อนสนิท มาร่วมธุรกิจด้วยกัน และทำให้แบรนด์ยางรัดผม Invisibobble ถือกำเนิดขึ้นด้วยแนวคิดที่ว่า ผลิตภัณฑ์ใกล้ตัว ต้นทุนถูก และไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ และทำให้เธอแปลงจากสาวปาร์ตี้กลายเป็นนักธุรกิจ
ปัจจุบัน ยางรัดผมแบรนด์ Invisibobble วางขายราว 70 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งในไทย ทั้งช่องทางออนไลน์ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่บนเครื่องบินหรือเรือสำราญก็ยังมี โดยมีสถิติว่าในปี 2018 สามารถขายได้กว่า 4 ล้านชิ้น หรือถ้าให้เทียบคือทุก 1 นาที จะมีคนซื้อยางรัดผม Invisibobble ถึง 8 ชิ้นเลยทีเดียว ทำให้โซฟีต้องขยายธุรกิจ จากที่เคยทำ 2 คนกับเพื่อนสนิท ก็ต้องจ้างพนักงานนับร้อยชีวิต กลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว
นอกจากนี้ โซฟีได้ให้แนวคิดทางธุรกิจที่น่าสนใจว่า สินค้าไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่เป็นสินค้าที่สามารถหาได้ใกล้ๆ ตัว และอุดจุดอ่อนของสินค้านั้นๆ ให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังเช่นยางรัดผม ที่มาจากสายโทรศัพท์ แต่ช่วยแก้ปัญหาปวดหัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ