วิษณุ รับรัฐบาลลุงตู่ สร้างหนี้มากที่สุด เพราะอยู่นานกว่าคนอื่น แถมรัฐบาลอื่นไม่เจอโควิด-19 ตอบฝ่ายค้านขู่โหวตคว่ำงบ ก็ต้องยุบสภา ตามหลักการ
(2 ก.ค. 63) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วานนี้ (1ก.ค.63) ว่า ไม่ติดใจคำวิจารณ์ เป็นธรรมดา เพราะถือเป็นบทบาทที่สำคัญของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการอนุมัติงบประมาณ ซึ่งถือเป็นรายจ่ายของแผ่นดิน งานสภาจึงต้องควบคุม ก็พูดกันในหลักการก็จบ แล้วค่อยไปตั้งกรรมาธิการว่ากัน
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้ตั้งงบเพื่อรองรับสถานการณ์หลังโควิดคลี่คลาย นายวิษณุ ย้ำว่า ผู้ที่รู้ก็ต้องไปชี้แจงในชั้นกรรมาธิการเพราะเรื่องของงบประมาณ ได้เตรียมทำไว้ก่อนที่จะมีโควิด เมื่อเกิดการแพร่ระบาดก็นำมาปรับเพื่อให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ จึงช้าไปเป็นเดือนกว่าจะเข้าสภาได้ ทั้งนี้ยืนยันว่ามีแผนรองรับจัดเตรียมไว้อยู่แล้ว
ส่วนข้อกล่าวหาที่โจมตีว่ารัฐบาลชุดนี้ก่อหนี้มากที่สุดนั้น นายวิษณุยอมรับว่า ถ้าจะจริงก็จริงเพราะรัฐบาลอยู่มานาน เพราะเมื่อพูดถึงรัฐบาลนี้คุณก็ไปมองตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่ปีพ.ศ.2557 “เขาอยู่นานกว่าคนอื่น เขาก็ทำงานมากกว่าคนอื่น แล้วก็ต้องใช้เงิน และเมื่อมาเจอวิกฤตโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลอื่นไม่เจอและต้องใช้เงิน ดังนั้นจะเอาเงินมาจากไหน สมัยก่อนนำมาจากภาษีอากรแต่วันนี้ประชาชนไม่มีรายได้ ปิดบ้าน ปิดเมือง ปิดประเทศ ล็อคดาวน์ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องกู้เงิน ทั้งนี้จะกู้มากกู้น้อยก็ไม่แปลกขอให้มีปัญญาใช้หนี้ก็แล้วกัน ขอให้ใช้อย่าเบี้ยว”
ส่วนที่ฝ่ายค้านขู่จะโหวตคว่ำพ.ร.บ.ดังกล่าว นายวิษณุ ระบุว่า เขามีอำนาจ 3 อย่าง 1.เห็นชอบ 2.ไม่เห็นชอบ และ3.งดออกเสียง ก็ทำมาอย่างนั้นทุกสมัย ซึ่งหากโหวตคว่ำด้วยเสียงส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาเพราะถ้าโหวตคว่ำรัฐบาลก็ต้องออก ลาออก หรือต้องยุบสภา ผลเป็นอย่างนั้น เพราะเท่ากับว่าสภาไม่ไว้วางใจ ส่วนจะถึงขั้นนั้นหรือไม่ตนไม่รู้ ขอให้รอดูพรุ่งนี้ตอนโหวต ส่วนเกี่ยวกับที่ว่าช่วงนี้มีกระแสข่าวยุบสภามา นายวิษณุปัดว่า ไม่มี ตนไม่เคยเห็นว่ามีกระแสอะไรเลย
+ อ่านเพิ่มเติม