สรุปคดีน้องชมพู่ล่าสุด พ่อแม่ล่องหน ลือหนักปิดคดีแล้ว พบเส้นขนสำคัญ แย้มปมพุ่งเป้าคนร้าย

คดีน้องชมพู่ล่าสุด...ณ วันนี้ ยังคงเป็นปริศนารอวันไขคำตอบ ใครฆ่าเธอ? เธอตายด้วยวิธีอะไร? นี่คือคำถามที่คนไทยทั้งประเทศอยากทราบคำตอบมากที่สุด

เมื่อคดีน้องชมพู่ไม่มีกล้อง ไม่มีพยานบุคคลพบเห็นคนร้าย ไม่มีหลักฐานชัดแจ้ง การตามไล่ล่าแกะรอยคนร้าย จึงใช้เวลานานนับเดือน ทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ ไล่เรียงความคืบหน้าล่าสุดของ “คดีน้องชมพู่” วินาทีนี้ใกล้มัดตัวคนร้ายได้หรือยัง และตอนนี้ตำรวจพุ่งเป้าไปที่ใคร ติดตามได้ที่นี่!

อ่านสรุปม้วนเดียวจบ “คดีน้องชมพู่” ก่อนหน้านี้

- 11 พ.ค.63 เกิดเหตุเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หายตัวลึกลับจากบ้านพักจังหวัดมุกดาหาร

- 14 พ.ค.63 ชาวบ้านขึ้นภูเขาไปเก็บเห็ด และได้พบศพน้องชมพู่ สภาพนอนเปลือยกาย อยู่บนภูเขาห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

-18 พ.ค.63 รองโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ระบุถึงผลชันสูตรศพของน้องชมพู่(ผลชันสูตรศพครั้งที่ 2)ว่า พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย และอวัยวะเพศมีบาดแผลฉีกขาด แพทย์จึงเก็บตัวอย่างของเหลวในช่องคลอดไปตรวจหาอสุจิ

- ในช่วงต้นเดือน มิ.ย. หรือผ่านไปราว 25 วัน หลังน้องชมพู่หายตัวไป โลกสังคมออนไลน์ และผู้ที่ติดตามข่าวน้องชมพู่อย่างใกล้ชิด ต่างพุ่งเป้าไปที่ “นายไชยพล วิภา” หรือ ลุงพล ลุงเขยของน้องชมพู่

- ลุงพล ให้ความเห็นกับสื่อว่า ถ้าผมถูกออกหมายจับ ผมก็ต้องดูก่อนว่าหมายจับนั้น นำมาจากหลักฐานอะไร เพราะช่วงที่ผมพบศพน้องชมพู่ ผมถอดหมวก มีเหงื่อเยอะมาก อาจจะกระเด็นโดนศพ และไม่ใช่แค่เหงื่อผมคนเดียว มีเหงื่อชาวบ้านคนอื่นๆ อีก

- 11 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางมาที่บ้านลุงพล โดยขอความร่วมมือจากลุงพล ในการเก็บหลักฐาน และตรวจหาดีเอ็นเอภายในรถกระบะของลุงพล พร้อมตรวจสอบกองขยะที่มีร่องรอยการเผาบริเวณหน้าบ้าน และเดินหาหลักฐานบริเวณป่าไผ่หลังบ้าน

- ลุงพล ให้ความเห็นว่า “ไม่ว่าอย่างไร ตำรวจก็ต้องเจอหลักฐานเกี่ยวกับน้องชมพู่อยู่แล้ว เพราะน้องชมพู่เคยขึ้นรถคันนี้ และน้องชมพู่เคยอ้วกใส่รถผม และผมก็เช็ดๆ เอา ไม่ได้ล้าง”

- 12 มิ.ย.63 ลุงพลโกนผมและคิ้วออกตามความเชื่อส่วนตัว โดยลุงพลเชื่อว่า เมื่อมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในชีวิต จะโกนผมโกนคิ้ว เพื่อให้สิ่งไม่ดีออกไป ซึ่งตามปกติจะทำปีละครั้ง และยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้คิดอยากจะบวช แต่คงไม่มีวัดไหนรับ เพราะอาจมองว่าตนหนีคดี

- ป้าถอน ชาวบ้านในพื้นที่ บอกกับสื่อว่า ในวันที่ 11 พ.ค. วันที่น้องชมพู่หายตัวไป ตนอยู่กับลุงพลทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่น้องชมพู่หายตัวไป ตนก็อยู่กับลุงพล ดังนั้น ตนพร้อมไปเป็นพยานให้ลุงพล และมั่นใจว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์

- ส่วนกรณีที่มีคนตั้งข้อสงสัยว่า ในวันที่พบศพน้องชมพู่ ลุงพลรู้ได้อย่างไรว่า ต้องเตรียมเสื้อผ้าขึ้นไปบนเขาให้น้องชมพู่ เพราะศพน้องไม่ได้ใส่เสื้อ ลุงพล ให้คำตอบในเรื่องนี้ว่า “เสื้อผ้าที่เตรียมขึ้นไป คุณพ่อของน้องเป็นคนเตรียมให้ ไม่ใช่ลุง”

- กรณีที่มีกระแสข่าวว่า ลุงพลมีปัญหากับพ่อแม่ของน้องชมพู่ จึงเกิดความโกรธแค้น และไปลงที่น้องชมพู่ ลุงพล ให้คำตอบในเรื่องนี้ว่า “ระหว่างครอบครัวผม และครอบครัวน้องชมพู่ ไม่มีปัญหาใดๆ ต่อกัน”

-  พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผบก.ภ.จ.มุกดาหาร ให้ข้อมูลกับสื่อว่า รายละเอียดทางคดีทั้งหมดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เกรงจะกระทบต่อการทำงาน และเชื่อว่าคดีดังกล่าวจะคลี่คลายในเร็ววัน

- 15 มิ.ย.63 นายสมคิด หนึ่งในผู้ต้องสงสัยฆ่าน้องชมพู่ บอกกับสื่อว่า ตนเองเกิดความเครียด เนื่องจากถูกตำรวจสั่งห้ามไม่ให้ออกไปทำงานนอกบ้าน จนกว่าจะจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ส่งผลให้ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ไม่มีเงินซื้ออาหาร จำเป็นต้องหยิบยืมเงินจากเพื่อนบ้าน

- 15 มิ.ย.63 ตำรวจเชิญตัวพ่อแม่น้องชมพู่ไปสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง โดยมี พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะกำกับดูแลคดีน้องชมพู่ เป็นผู้สอบสวนเอง ซึ่งสื่อที่ไปติดตามทำข่าว สังเกตเห็นว่า พ่อของน้องชมพู่มีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด (ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนระบุว่า สิ้นข้อสงสัยในตัวคนในครอบครัวของน้องชมพู่แล้ว)

- 16 มิ.ย.63 พ่อและแม่ของน้องชมพู่ปิดบ้านเงียบ ซึ่งมีกระแสข่าวระบุว่า พ่อและแม่ของน้องชมพู่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยชาวบ้านในละแวกนั้น เห็นพ่อและแม่น้องชมพู่ออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเช้า

- 17 มิ.ย.63 ชาวบ้านในหมู่บ้านสังเกตเห็นว่า ในช่วง 1-2 วันมานี้ ตำรวจไม่ได้เข้ามาในหมู่บ้าน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้จะมีตำรวจเข้ามาในหมู่บ้านทุกวัน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า เหตุที่ตำรวจไม่เข้ามาในหมู่บ้าน เนื่องจากตำรวจอาจจะมีพยานหลักฐานเพียงพอ และใกล้ปิดคดีแล้ว อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าวว่า ผลดีเอ็นเอ จะออกมาภายใน 1-2 วันนี้

- 17 มิ.ย.63 (37 วันหลังจากน้องชมพู่หายตัวไป) เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ไปยังบ้านลุงพลอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ได้เก็บกระสอบ 2 ใบ ถุงมือผ้า และขนสุนัขบางส่วน

- ลุงพล เปิดใจในรายการโหนกระแสว่า “ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ถ้าเจ้าหน้าที่เขามั่นใจว่าเป็นฝีมือผม ผมก็ต้องยอมรับไปตามสภาพ” เมื่อลุงพลถูกถามว่า จะไม่สู้คดีเลยหรือ? ลุงพลตอบว่า “สู้ก็ต้องไปสู้ในชั้นศาล ยังยืนยันความบริสุทธิ์ เพราะผมก็รักหลานมาก”

- เมื่อถามลุงพลว่า หลายคนมองว่า ลุงพลแกล้งแสดงออกว่า รักหลาน เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร? ลุงพลให้คำตอบว่า “นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์นะครับ ที่เราจะไปทำแบบนั้นได้”

- พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) แย้มข้อมูลสำคัญ หลังจาก พล.ต.อ.อชิรวิทย์ ถูกถามว่า ขณะนี้ลุงพลกังวลใจว่า เหงื่อของลุงจะติดอยู่ที่ศพของน้องชมพู่ ตอนขึ้นไปเจอศพบนเขา โดย พล.ต.อ.อชิรวิทย์ แย้มว่า “กรณีที่หลายคนพุ่งเป้าไปที่ลุงพลนั้น เป็นเพียงแค่ข่าว แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิสูจน์ศพน้องชมพู่อย่างละเอียด ไม่ปรากฏ”

- “ผมคุยกับผู้บังคับการจังหวัดมุกดาหาร มีเส้นผม หรือเส้นขนอยู่เส้นหนึ่ง (ต่อมา พล.ต.อ.อชิรวิทย์ ระบุว่า เส้นขนมีลักษณะหงิกงอ) ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นดีเอ็นเอของน้องชมพู่ แต่ทางพิสูจน์หลักฐานต้องการตรวจให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพราะเส้นผมเส้นขนนี้ มีลักษณะไม่น่าจะเป็นของน้องชมพู่ และมีความผิดปกติ แต่สิ่งสำคัญ คือ เส้นผมเส้นขนนี้ มีดีเอ็นเอเดียวกันกับน้องชมพู่” พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าว 

-  “ผมเชื่อว่า คดีนี้จะไม่มีทางไปจับแพะ แกะ ลา ม้า ล่อ อย่างแน่นอน” พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าว. 

หมายเหตุ : พล.ต.อ.อชิรวิทย์ แย้มข้อมูลสำคัญ ตั้งแต่นาทีที่ 24.17