‘กราดยิงโคราช’ ฝันร้ายที่คนไทยจำไม่ลืม เหตุการณ์ครั้งนี้สังเวยชีวิตของวีรบุรุษมากมาย ซึ่งทางการได้จัดพิธีฌาปนกิจ เพื่อสดุดีวีรชนผู้กล้า ซึ่งพิธีการในครั้งนี้ถูกรังสรรค์อย่างสมเกียรติ เรื่องราวเหมือนจะถูกบันทึกลงหน้าประวัติศาสตร์ไปตามกาลเวลา แต่…
(แฟ้มภาพ)
- เพจเฟซบุ๊ก ‘อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.Plus+’ ได้แชร์เรื่องราวสุดอื้อฉาวของสารวัตร(ยศพันตำรวจตรี)รายหนึ่ง ที่ยักยอกเงินพิธีค่าจัดพิธีศพวีรบุรุษหน่วยอรินทราช 26 ผู้สละชีพเพื่อเข้าระงับเหตุกราดยิงโคราช โดยแนบภาพบทสนทนาไลน์ พร้อมข้อความว่า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สั่งสอบวินัยร้ายแรง 'พ.ต.ต.' ยักยอกเงินงานศพ ตร.หน่วยอรินทราช เหยื่อกราดยิงโคราช
- “ขอประณามกับพฤติกรรมตำรวจแบบนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลการจัดงานณาปนกิจ ยักยอกเงินจัดงานไปใช้ส่วนตัว พอทวงไปบอกเงินหาย แม้กระทั่งค่าโลงก็ไม่จ่ายเลยสักบาท”
- โดยสารวัตรผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่า “ผมเอาเงินใส่เป้แล้วสะพายกลับบ้าน แต่เผลอลืมวางเป้บนมอเตอร์ไซค์ของผมที่จอดไว้ด้านล่างห้องพัก พอนึกได้รีบลงมาจากห้องพัก แล้วปรากฏว่า…หาย”
- ผู้เสียหายยังกล่าวอีกว่า “คุณไม่สงสารเขาเหรอ ทุกคนทำด้วยใจ งานเพื่อวีรบุรุษ พอทวงบ่อยๆ คุณก็บอกไม่มี แถมยังบอกให้ฟ้องเลย ผิดหวังกับตำรวจไทยที่ดูแลงานตำรวจกันเอง ยักยอกแม้กระทั่งเงินงานศพ”
- ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘สร ครับผม’ คาดว่าเป็นนายตำรวจรายดังกล่าว เข้าไปแสดงความเห็นชี้แจง ใจความว่า “ผมต้องขอโทษร้านค้าต่างๆ ด้วยครับ ที่ต้องทำให้เดือดร้อน"
- ผมกำลังหาเงินมาให้ท่าน ผมกำลังให้พ่อแม่บอกขายที่ดินที่บ้านเกิด เพราะผมและทางบ้านของผมมีฐานะยากจน ผมพยายามหาเงินมาคืนทุกหนทาง จึงขอความเมตตาจากท่านให้เวลาผมหาเงินมาให้ท่าน
- ร้านค้าที่ผมยังไม่ได้ส่งเงินมี 5 ร้าน
ร้านอาหาร 1 จำนวนเงินหนึ่งหมื่นกว่าบาท
ร้านอาหาร 2 จำนวนเงินสองหมื่นกว่าบาท
ร้านขนม จำนวนหกหมื่นกว่าบาท
ร้านสังฆภัณฑ์ จำนวนเก้าหมื่นกว่าบาท
ร้านดอกไม้ จำนวนสี่หมื่นกว่าบาท”
- เรื่องราวดังกล่าว กลายเป็นกระแสดราม่าเดือดบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตมีการส่งต่อเรื่องฉาวสะเทือนวงการสีกากี ร้อนถึง พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ต้องออกมาแถลงว่า ได้รับรายงานจากกองกำกับการฝ่ายฌาปนกิจสงเคราะห์แล้ว
- จากการตรวจสอบเรื่องนี้มีมูล ซึ่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พฤติการณ์เป็นการกระทำอันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง เห็นควรตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป”
- ล่าสุด สารวัตรผู้ตกเป็นข่าว ณ ขณะนี้ได้เปิดใจชี้แจงข้อเท็จจริงกับทีมข่าวว่า “เหตุการณ์ในวันนั้น ตนรวบรวมเงินจากงานฌาปนกิจ ซึ่งคาดว่ามีมากเกือบ 1 ล้านบาทใส่ซองกระดาษสีน้ำตาล"
- "แบ่งเป็นเงินที่ต้องเคลียร์กับร้านค้าต่างๆ รวม 5 ร้าน เป็นเงินประมาณ 2 แสนบาท และเงินที่ต้องส่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีก 6 แสนบาท (เงินบำรุงการใช้ฌาปนสถาน)โดยนำเงินจำนวนนี้ ใส่ในกระเป๋าเป้ พร้อมกับใบเสร็จ โน้ตบุ๊กต่างๆ ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากวัด
- เมื่อขี่มาถึงหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล มีโทรศัพท์เข้า จึงเปิดกระเป๋าเป้ รับโทรศัพท์ และลืมปิดกระเป๋า ก่อนขี่รถกลับมาที่พัก ย่านวิภาวดีโดยใช้เส้นทางลัด ก็ทราบว่าซองเงินหล่น ซึ่งเส้นทางดังกล่าวไม่ค่อยมีกล้องวงจรปิดและมืด ทำให้ยากต่อการตรวจสอบว่าซองเงินหายไปที่ใด”
- ขณะเดียวกัน ตนเองก็ให้ทางบ้านประกาศขายที่ดินในอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง รวมถึงขอกู้ยืมเงิน แต่ก็ยังไม่สามารถใช้คืนได้หมด ทั้งนี้ ตนเข้าใจดี และไม่โกรธที่ร้านค้าต่างๆ ให้ข้อมูลสื่อมวลชน เพราะตนทำผิดจริง พร้อมยอมรับชะตากรรม”.