กลายเป็นประเด็นร้อนแรง หลัง “นักข่าวใต้คนดัง” เข้าช่วยเหลือ แม่ ที่ลูกดับปริศนา หลังฝากเพื่อนเลี้ยง แต่สุดท้าย นักข่าวรายดังกล่าว เปิดรับบริจาค โดยที่แม่เด็กไม่รู้เรื่อง สุดท้าย อมเงินเองกว่า 1.7 แสน !
วันที่ 12 ธ.ค. 2566 จิตสุภา มาแปะ (เร) แม่ของเด็กที่เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนได้นำลูกไปฝากเพื่อนเลี้ยง ซึ่งตนก็ไว้ใจ เพราะเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน และที่บ้านเขาก็มีแม่ของเขาช่วยเลี้ยงด้วย ตนฝากได้ประมาณ 2 วัน เพื่อนก็ไลน์มาบอกว่า ลูกไม่สบาย อยู่โรงพยาบาล เช้าวันต่อมา ทางโรงพยาบาลโทรมาหาตน ในตอนนั้นตนยังคิดว่าลูกแค่ไม่สบาย แต่ทางโรงพยาบาลบอกกับตนว่า ลูกได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว โดยคุณหมอได้ปั๊มหัวใจขึ้นมา 2 รอบ แต่ตนได้ขอให้หยุด เพราะไม่อยากให้ลูกเจ็บ ส่วนผลการชันสูตร หมอบอกว่า มีเลือดออกในสมองส่วนใน เป็นปริมาณเยอะ ทำให้เสียชีวิต และหมอยังบอกอีกว่าน้องโดนเขย่าอย่างรุนแรง ส่วนทางเพื่อนที่ฝากเลี้ยง บอกว่า ลูกตนอยู่ดี ๆ ก็เงียบไป
เรื่องราวดังกล่าว ตนได้นำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว แล้วมีคนอื่นนำโพสต์นี้ไปแท็กหานักข่าวที่ชื่อเอส แต่ตอนนั้นตนไม่รู้เรื่องเลย เพราะตนจัดงานศพให้ลูกอยู่ ซึ่งทางนักข่าวเอส เขาก็พยายามติดต่อตน แต่ตนยุ่งอยู่กับงานศพทำให้ไม่ได้ตอบเขา จากนั้น นักข่าวคนนี้ก็มาโพสต์คลิปด่าตน ตนติดต่อไปอธิบายเขาก็ไม่ฟัง และยังมีการโพสต์ด่าตนอีก สุดท้ายตนได้ให้ข่าวกับสื่ออื่นไปแล้ว เขาถึงได้ติดต่อเข้ามาว่าอยากช่วยตน แต่ตนก็ติดใจที่เขาด่าตน เขาก็ยอมที่จะแก้ข่าวให้
ต่อมาเขาให้ตนไปเดินเรื่องเอกสาร ไปที่โรงพัก พยาบาล ถ่ายรูปหลักฐานที่ต่าง ๆ และกำชับไม่ให้ตนนำไปโพสต์ ทว่านักข่าวคนนี้กลับเอารูปลูกตนไปโพสต์เปิดรับบริจาค โดยที่ไม่ได้คุยอะไรกับตนมาก่อนเลย เขาบอกเพียงแต่ว่าจะช่วย ไม่ได้บอกว่าจะเปิดรับบริจาคตนเพิ่งมารู้ภายหลัง และยืนยันว่าตนไม่ได้ให้เขาเอาลูกตนไปเปิดรับบริจาค โดยครั้งแรกเขาเปิดรับบริจาคได้เงินมา 7,000 บาท จ่ายค่าฝากศพลูกให้ตน 6,000 บาท ส่วนที่เหลือตนไม่ทราบ นอกจากนี้ ยังมีเปิดรับบริจาคอีกรอบโดยเอารูปลูกของตนไปเปิดรับบริจาคโพสต์ในเฟซบุ๊ก ให้โอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง ได้มากว่า 170,000 บาท แต่เขาไม่ได้ให้ตนเลย มีแต่ทีมงานเขาโอนเงินให้ 12,000 บาท ซึ่งเขาเคยบอกตนว่าวัตถุประสงค์ของการเปิดรับนี้ จะใช้ในการจัดงานศพลูกตน และใช้สำหรับคดี พร้อมบอกว่าเงินทุกบาทจะเป็นของตน
นอกจากนี้ ก่อนจะมีเรื่องบริจาค นักข่าวคนนี้ยังมีการโพสต์ประจานตน ด่าเสีย ๆ หาย ๆ ด่าว่าตนขายลูกกิน ติดยา ติดน้ำกระท่อม ทำให้ตนแทบไม่มีที่ยืนอยู่ในสังคม ตนโดนคนในสังคมมายืนชี้หน้าด่า อับอายมาก และลูกอีกหนึ่งคนของตน เขากลับต้องมารู้เรื่องอะไรแบบนี้ จะไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้ ทั้งนี้ที่ตนโพสต์ในกลุ่มหาคนเลี้ยงลูกนั้น ตนต้องการหาคนที่จะมาอุปการะลูกตน และตั้งใจอยากเลี้ยงเด็กจริง ๆ อย่างไรก็ตาม คนที่โพสต์ด่าตนต่าง ๆ นา ๆ ตนไม่ฟ้อง เพราะตนไม่มีเงิน แต่ตนอยากได้ความเป็นธรรมคืน จากที่ตัวนักข่าวคนนี้นำเสนอเกี่ยวกับตนออกมา ว่าเชื่อได้ไหม และอีกอย่างคือ เงินจากนักข่าวคนนี้ ตนไม่เอา ตนขอแค่แก้ข่าวให้เท่านั้น
ด้าน ธนพัฒ บุญญะ (เอส) นักข่าว ชี้แจงว่า เรื่องเงินบริจาคตอนนั้น ตนได้ปรึกษากับทางเรแล้ว เพราะมันต้องหาค่าใช้จ่ายมาช่วยเขา ยืนยันว่าเขารู้เรื่องการเปิดรับบริจาค และที่ต้องใช้บัญชีตัวเองในการรับเงิน เพราะ เอฟซีของตนเขาไว้ใจตน ซึ่งในก้อนแรกที่ได้เงินมาเป็นจำนวนเงิน 7,270 บาท ตนจ่ายให้เรไป ค่าฝากศพ 5,000 บาท และอีก 1,000 ค่ามัคทายก และที่เหลือนำไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้สัปเหร่อ ส่วนที่ตนไม่ให้เรโพสต์หลักฐานต่าง ๆ เพราะไม่อยากให้ผู้ต้องสงสัยเขารู้ความเคลื่อนไหว
สำหรับเรื่องที่โพสต์ด่านั้น ตนโพสต์ด่าเพราะทะเลาะกับแฟนของเร จากประเด็นที่ตนมาพบว่าเรนั้นโพสต์ขายลูก ในราคา 50,000 บาท ซึ่งเรให้เหตุผลว่าโพสต์ประชดผัว แต่จากหลักฐานที่ตนได้สืบมาพบว่าเขาตั้งใจโพสต์ขายจริง ทว่าหลังจากตนทราบเรื่องแล้ว ที่ตนยังช่วยเขาอยู่เนื่องจาก อยากทวงความเป็นธรรมให้กับเด็ก แต่จุดเปลี่ยน คือ ตนได้จัดงานศพให้น้องกัปตันแล้วตามสัญญา แต่แม่เด็กเขาไม่ไปรับศพลูก จึงได้บอกกับเรไปว่า เงินที่เหลือตนจะไม่ให้เขาแล้ว จะเอาไปบริจาคทั้งหมด และตนก็ได้นำไปบริจาคให้กับมัสยิดแล้ว
นอกจากนี้ ตนได้จ่ายค่างานศพน้องกัปตันไป 40,000 บาท เป็นค่าดอกไม้ ค่าจัดงาน และค่าผ้าม่าน ขณะเดียวกันตนก็ได้มีการโอนเงินช่วยเหลืออีกเคสหนึ่งประมาณ 40,000 บาท เป็นค่าเหมารถตู้ ซึ่งเขาโดนสามีกระทืบ แล้วเขาอยากกลับบ้านที่อ.หาดใหญ่ ตนจึงช่วยเหลือ ดึงเงินจากการบริจาคน้องกัปตัน ไปช่วยเหลือ โดยผู้เสียหายรายดังกล่าว จะมาใช้คืน ซึ่งที่ตนช่วยเหลือเพราะน้องเขาตั้งท้องอยู่ ตนเลยช่่วยเหลือไปก่อน
ฟาก สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า โดยหลักการแล้ว การที่จะเปิดรับเงินบริจาคได้ ต้องไปขออนุญาตกรมการปกครองของกระทรวงมหาดไทย และต้องระบุในคำร้องชัดเจนว่ารับบริจาควันที่เท่าไหร่ ถึงวันที่เท่าไหร่ และต้องกำหนดว่าใช้ตัวเลขเท่าไหร่ และต้องเปิดบัญชีใหม่ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการทำเลย ดังนั้นเสี่ยงสูงมากที่จะถูกดำเนินคดีอาญา
ทั้งนี้ เรื่องที่แม่ของเด็กที่เสียชีวิตโพสต์ ไม่ว่าเขาจะโพสต์ประชดผัวหรือไม่อย่างไร ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา นักข่าวสุ่มเสี่ยงถูกดำเนินคดีด้วยการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และถ้าไม่เป็นความจริงอีก ก็เข้าข่ายโดนพ.ร.บ.คอมฯ
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35