ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ (12 มี.ค. 63) ดิ่งหนัก เมื่อเวลา 14.38 น. ปรับตัวลดลงกว่า 125 จุด หรือ 10 % ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องใช้มาตรการหยุดทำการซื้อขายโดยอัตโนมัติเป็นการชั่วคราว หรือ Circuit Breaker เป็นเวลา 30 นาที ครั้งแรกในรอบ 11 ปี 4 เดือน
ปัจจัยที่ฉุดดัชนีหุ้นไทยร่วงแรง เนื่องจากนักลงทุนกังวลถึงสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ที่น่ากังวลมากขึ้น ประกอบกับองค์การอนามัยโลกประกาศเข้าสู่ภาวะแพรร่ะบาดทั่วโลก พร้อมกับการที่ไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 11 ราย และคาดว่ามีโอกาสเข้าสู่ระยะที่ 3 ในเร็วๆ นี้ และหากโควิด-19 ยังระบาดหนัก คาดว่าเศรษฐกิจโลกมีโอกาสหดตัวในปีนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังผันผวนและมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อเนื่อง
ซึ่งเมื่อวานนี้ หลังจากหยุดพัก 30 นาที ตามมาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ พอเปิดซื้อขาย ดัชนีก็ร่วงต่อเนื่อง และทรุดหนักลงตลอดชั่วโมงซื้อขาย แม้ว่าผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ จะเผยว่า หน่วยงานตลาดทุน อยู่ระหว่างหารือตั้งกองทุนพยุงหุ้น พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือ บจ.- บล.หวังลดภาระค่าใช้จ่าย แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้
สำหรับ Circuit Breaker จะใช้ในกรณีที่สภาวะการซื้อขายมีความผันผวนรุนแรง ราคาหลักทรัพย์โดยรวมเปลี่ยนแปลงลงมาก เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างครบถ้วน ตลาดหลักทรัพย์จะหยุดทำการซื้อขายโดยอัตโนมัติเป็นการชั่วคราว ซึ่งที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ใช้ Circuit Breaker มาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรก 19 ธ.ค. 49 ครั้งต่อมา 10 ต.ค. 51 และครั้งที่สาม 27 ต.ค. 51
+ อ่านเพิ่มเติม