ความคืบหน้าคดีโจรชิงทองที่จ.ลพบุรี ความคืบหน้าตอนนี้มีหลายประเด็นมากๆ โดยเฉพาะเรื่องของคนร้าย ว่าเป็นใคร หลบหนีไปทางไหน ล่าสุด พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า การสืบสวนมีความคืบหน้า ตอนนี้สามารถจำกัดวงแคบผู้ต้องสงสัย เนื่องจากมีปชช.จำนวนมากทยอยเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจอย่างต่อเนื่อง และเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิด มอเตอร์ไซค์ที่ผ่านบริเวณทางแยกก่อนเข้ารพ.อานันทมหิดล มีพยานให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่า พบผู้ต้องสงสัยติดอยู่สี่แยกไฟแดงดังกล่าว แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นรถของคนร้ายหรือไม่ เพราะกล้องวงจรปิดไม่ชัดเจนมากนัก จึงขอให้ปชช.ที่มีกล้องหน้ารถ ขับผ่านเส้นทางดังกล่าวในช่วงเวลานั้น ขอให้นำมาให้ตำรวจด้วย
ทีมข่าวบอกว่า เสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ในวันเกิดเหตุ ตำรวจสืบทราบถึงที่มาแล้ว และพบว่ารองเท้ายี่ห้อดังที่คนร้ายใส่นั้นเป็นของปลอม จึงเชื่อว่าคนร้ายพยายามแต่งตัวให้มีลักษณะเป็นของแบรนด์เนม เพื่อสร้างความขัดแย้งต่อพฤติการในการก่อเหตุ สำหรับประเด็นในการสืบสวน ตร.ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ประเด็นชิงทองเพียงอย่างเดียว เนื่องจากไปพบมูลเหตุในประเด็นอื่น ที่มีน้ำหนักว่าน่าจะเป็นไปได้ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ขอเปิเเผยรายละเอียด
ทางรองโฆษกสนง.ตำรวจแห่งชาติ ได้พูดถึงประเด็นความคืบหน้า โดยเฉพาะประเด็นกลุ่มผู้ลงมือ มีการเรียกบุคคลเข้าไปสอบปากคำบ้างแล้ว แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเรียกใครไปบ้าง และแนวทางการืบสวนยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชิงทอง หรือว่าเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องอื่นๆ ตอนนี้กำลังเฝ้าจับตามองไปยังกลุ่มผู้ต้องสงสัย ส่วนผู้ต้องสงสัยจะอยู่ในพื้นที่หรือไม่นั้น ยังไม่ขอตอบ
ส่วนกรณีที่มีคนแต่งตัวคล้ายคนร้ายไปในพื้นที่สาธารณะ สร้างความปั่นป่วนมากๆ และมีผบต่อการสืบคดี ทางตร.จึงขอว่าอย่าทำแบบนี้ ขณะเดียวกัน มีการวิเคราะห์โดย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ฉายามือปราบหูดำ ท่านบอกว่า พฤติการของคนร้ายที่ก่อเหตุ จากประสบการณ์มั่นใจว่าคนร้ายต้องไปดูลาดเลาและเส้นทางการหลบหนีก่อนแล้ว และเชื่อว่าคนร้ายไม่รู้สึกหวาดกลัวในตอนที่เกิดเหตุ แต่ให้ความสำคัญกับการหลบหนีมากกว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะอยู่ไม่ไกลจากจุดก่อเหตุ ไม่น่าเกิน 5 กม. เพราะหากหลบหนีในระยะท างไกล อาจถูกสกัดหรือถูกจับกุมได้
ส่วนแผนพฤติการคนร้ายที่ขี่จยย.หลบหนีไปยังเส้นทางที่ไม่มีกล้องวงจรปิด แล้วอาจเอาจยย.ไปหลบซ่อน หรือทิ้งลงแม่น้ำ ก่อนเปลี่ยนยานพาหะนะหลบหนี ต้องมีผู้เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือพาหลบหนี และไม่อยากให้มองว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะปัจจุบัน คนธรรมดาก็สามารถเรียนรู้และฝึกฝนเองได้ตามสถานที่ฝึกยิงปืนหรือแม้กระทั่งในโซเชียลก็ตาม
นอกจากนี้ เรื่องของอุปกรณ์ปืน ในส่วนของลำกล้องเก็บเสียง คนทั่วไปไม่สามารถครอบครองได้ก็จริง แต่ในตลาดมืดก็น่าจะมีขาย เพราะมีข้อมูลว่ามีการลักลอบทำลำกล้องเก็บเสียง ทั้งในฉะเชิงเทรา พิษณุโลก แม้กระทั่งลพบุรี คุณภาพก็จะแตกต่างจากลำกล้องเก็บเสียงนำเข้า ส่วนเรื่องการแต่งกายกับน้ำหนักของจำนวนทองที่ชิงไป มองว่าไม่น่ามีประเด็นสำคัญ โดยมองว่าคนร้ายอาจมีรสนิยมส่วนตัวและทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนไหวก็ได้
ส่วนบรรยากาศงานฌาปนกิจศพของเด็กชายภานุวิชญ์ วงศ์อยู่ หรือน้องไทตัล ที่วัดหัวช้าง ประชาชนและเจ้าหน้าที่ห้างโรบินสันมาร่วมงานกันจำนวนมาก
ซึ่งบรรยากาศภายในบริเวณวัดเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนในพื้นที่จังหวัดลพบุรี เพื่อนร่วมงานของแม่น้องไทตัล ผู้บริหารระดับสูงขอห้างโรบินสัน ทำให้บริเวณภายในวัดหัวช้างเนืองแน่นไปด้วยผู้มาร่วมไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณของน้องไทตัลเป็นครั้งสุดท้าย
ทางผู้สื่อข่าวบอกว่า ตอนเปิดหีบศพ พ่อของน้องไทตัลโบกมือให้ลูกชายและบอกว่า "ลาก่อนนะลูก ไม่ต้องห่วง พ่อกับแม่อยู่ได้" โดยพ่อของน้องเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า วันแรกที่ลูกเสียชีวิต จนถึงวันนี้ก็ยังรู้สึกใจหาย เพราะว่าเป็นวันสุดท้ายที่ได้เห็นหน้าลูก และต่อไปคงจะไม่ได้เห็นอีกแล้ว สภาพจิตใจตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว ที่ผ่านมา มีชีวิตอยู่ก็เพือลูก ทำ ทุกอย่างเพื่อลูก พอวันแรกๆ ที่้น้องจากไปก็รู้สึกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ แต่ที่ยังอยู่ได้ ก็เพราะกำลังใจจากครอบครัวและทุกคนที่ให้มา และคุณพ่อเชื่อว่า เมื่อคืนเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เชื่อว่าลูกชายน่าจะไปสบายแล้ว เพราะตอนที่จุดธูปให้กับแขก จู่ๆ ของเล่นที่ลูกชอบเล่นก็มีเสียงดังขึ้นมา
ส่วนเรื่องของคดี ทางพ่อแม่ของน้องไทตัลก็ไม่มีความกังวลอะไร และไม่ได้ติดตามแล้ว เพราะว่าจะจับคนร้ายได้หรือไม่ได้ ตัวเองก็เสียลูกไปแล้ว ขออโหสิกรรมให้กับคนร้าย เพราะคิดว่าคงเป็นจ้ากรรมนายเวรกันแต่ชาติปางก่อน นอกจากนี้ ยังเปิดเผยอีกว่า ในวันเกิดเหตุแม่ต้องการพาน้องไทตัลไปกินสุกี้ห้างดังกล่าว วันนี้จึงมีการเลี้ยงพระด้วยสุกี้ให้น้องเป็นครั้งสุดท้าย
ส่วนผู้เสียชีวิตอีกราย นางสาวธิดารัตน์ ทองทิพย์ หรือน้องกวาง พนักงานร้านขายทองออโรร่า สาขาโรบินสัน เมื่อวานนี้ (13 ม.ค. 63) มีพิธีฌาปนกิจศพเช่นเดียวกัน ที่วัดศรีธรรมโสภณ จ.ลพบุรี มีเพื่อนร่วมงานและชาวบ้านได้มาร่วมงานเพื่อส่งน้องกวางขึ้นสู่สวรรค์
ขณะที่บริเวณด้านหน้าของเมรุวัดศรีโสภณ ทางครอบครัวได้มีการทำเค้กประดับด้วยรูปของน้องกวางรอบเค้กพร้อมข้อความแฮปปี้เบิร์ดเดย์ เพราะในวันนี้ (14 ม.ค.) เป็นวันเกิดของน้องกวาง ยิ่งสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้มาร่วมงานกันเป็นอย่างมาก และในขระที่มีพิธีอยู่บนเมรุ น้องออก้า ลูกชายของน้องกวาง ยืนยกมือไหว้รับแขกที่มาร่วมเผาศพแม่ของเขาแบบไร้เดียงสา ส่วนทางคุณพ่อของน้องกวางยังคงรู้สีกเสีย นอนไม่หลับมาหลายคืน เพราะคิดถึงลูกสาว และในวันเกิดลูกสาว ก็อยากจะบอกลูกสาวว่าไม่ต้องห่วงอะไร พ่อจะดูแลน้องออก้าให้ดีที่สุด
ส่วนที่ห้างโรบินสัน จ.ลพบุรี เมื่อวานนี้ได้จัดพิธีทำบุญ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงาน และอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต ทางห้างได้นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูปมาสวดในครั้งนี้ พร้อมปะพรมน้ำมนต์ภายในห้าง และทางผู้บริหารห้างโรบินสันได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ครอบครัว ได้แก่ ครอบครัวน้องไทตัล ครอบครัวน้องกวาง พนักงานขายทอง, และครอบครัวของนายธีระฉัตร นิ่มมา หัวหน้า รปภ. ครอบครัวละ 5,000 บาท ขณะที่ทางผู้บริหารห้างโรบินสันได้มอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตครอบครัวละ 1 แสนบาท ส่วนครอบครัวผู้บาดเจ็บ 5 หมื่นบาท และในกลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ป รวบรวมมาช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บครอบครัวละ 43,000 บาท
พลตำรวจตรีณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรีแถลงข่าวความคืบหน้าของการติดตามคนร้ายชิงทองห้างโรบินสันว่าขณะนี้ชุดทำงานทุกชุดลงทำงานเต็มพื้นที่ และเร่งติดตามตัวคนร้ายโดยคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้วตัวละครต่างๆ ลดลงเหลือไม่กี่ตัวแล้ว เพียงรอความเชื่อมโยงอีกนิด และขณะนี้กำลังหาจุดว่าตัวต่อเก็บเสียงมีขายในพื้นที่หรือหาซื้อมาจากนอกพื้นที่
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังขอความร่วมมือกับผู่ที่ปล่อยข่าวลวงว่าจับได้แล้ว เอ่ยชื่อของคนนั้น คนนี้ ไม่ควรทำเพราะมันผิดกฎหมายและทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานลำบากณะที่ในเรื่องของข้อมูลที่ทางชาวบ้านแจ้งเข้ามามีมากขึ้นและได้นำไปใช้ได้ประโยชน์มาก โดยเฉพาะเรื่องมีคนพบเห็นผู้ต้องสงสัยขับรถผ่านโรงพยาบาลอนันชุดสอบสวนกำลังไล่ดูกล้องอยู่
จากแหล่งข่าวบอกว่าตำรวจได้ทำการสืบจากอาวุธที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุมีมีอยู่ในพื้นที่ลพบุรีอยู่ประมาณ 14 กระบอก เป็นของหน่วยรายราชการประมาณ 10 กว่ากระบอก และเป็นของเอกกชนหรือชาวบ้านทั่วไป 3-4 กระบอก ซึ่งปืนรุ่นนี้ส่วนใหญ่มีทะเบียนเพราะเป็นปืนที่มีราคาแพง ซึ่งทางการสืบสวนรอการเชื่อมโยงอีกนิด
อีกกรณีหนึ่ง มีผู้เสียหายที่ถูกแชร์ภาพในโลกโซเชียล และบอกว่าตนเป็นคนร้ายในเหตุการณ์ครั้งนี้ นายเอกฐวีป คงคาวารี หรือเอก อายุ 36 ปี ซึ่งอดีต เคยเป็นผู้ต้องหาชิงทองเมื่อปี 2556 และถูกจับกุมต้องโทษนาน 7 ปี ก่อนพ้นโทษมา แต่ล่าสุดกลับมีผู้คนในโลกออนไลน์แชร์ภาพ หน้าบัตรประชาชน และกล่าวหาว่าตนเป็นผู้ต้องหา ชิงทองและกราดยิงในร้านทองจังหวัดลพบุรี
นายเอก บอกว่า เมื่อวานนี้ขณะกำลังเรียนหนังสืออยู่นั้น มีคนโทรศัพท์มา และส่งข้อความที่แชร์กันมาให้ตนดู จึงตั้งสติ และรีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.สามเสนในช่วงเย็น แต่ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านในจังหวัดกำแพงเพชร ก็มีเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ซึ่งที่บ้านมีพ่อ และแม่สูงอายุอยู่กับหลานชาย และพี่ชาย จึงได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้นายเอก ได้นำหลักฐานเป็นภาพวงจรปิดมาให้ทีมข่าวดู ในวันที่ 9 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 20.30 น. นายเอกทำงานอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะไปก่อเหตุในจังหวัดลพบุรี ส่วนที่มีภาพของตนหลุดออกมานั้น ทราบมาว่า หลุดมาจากกลุ่มแชทกลุ่มหนึ่ง ซึ่งพอทราบต้นตอที่โพสต์แล้ว จึงเตรียมเข้าไปแจ้งความเอาผิดคนโพสต์ และคนแชร์
โดยอยากฝากถึงคนที่โพสต์ว่า การแชร์ข้อความ เพียงสั้นๆ อาจจะเป็นการทำลายชีวิตคนหนึ่ง เมื่อตนพ้นโทษออกมาก็ตั้งใจมาทำงาน และเรียนปริญญาตรีให้จบ ไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวเส้นทางสายดังกล่าวอีก ซึ่ง ณ เวลานี้ เมื่อมีการแชร์ข้อความกัน จากที่บางคนไม่เคยรู้เรื่องราวของตน ก็ถูกเปิดเผยและมีผลต่อสายตาของผู้คนในสังคมที่มองมาที่ตนเอง อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจดีว่า สักวันอาจถูกตรวจสอบ เพราะหนึ่งในแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องตรวจสอบประวัติคนที่เคยก่อเหตุ เพื่อเทียบเคียงแผนประทุษกรรม