จากรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ นำสารตั้งต้นประกอบระเบิด เข้ามาในอาคารรัฐสภา หวังพิสูจน์เครื่องตรวจระเบิดที่ใช้อยู่ไร้ประสิทธิภาพนั้น
ล่าสุดวันที่ 11 ธ.ค. นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจนครบาลบางโพ ได้แจ้งมายังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีเอาผิดกับ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ เนื่องจากการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายเป็นคดีด้านความมั่นคง
ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถมาเชิญตัวนายมงคลกิตติ์ ไปให้ปากคำตามขั้นตอนของกฎหมายได้ แต่ว่านายมงคลกิตติ์เอง ก็ยังคงสามารถใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองได้เช่นกัน เนื่องจากอยู่ในสมัยการประชุม
ขณะที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับด้วยว่า การกระทำของนายมงคลกิตติ์ เป็นการหมิ่นประมาทสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพราะกล่าวหาว่ารัฐสภาไม่มีความรอบคอบในการดูแลความปลอดภัย ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่คดีนี้ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ เนื่องจากทางตำรวจมองว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความมั่นคง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแจ้งความดำเนินคดีเองได้
ด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยว่า ตนพร้อมชี้แจงให้ข้อเท็จกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีหมายเรียกมา และยืนยันว่าสารดังกล่าวเป็นเพียงสารไนโตรเจน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระเบิดเท่านั้นไม่ใช่การนำระเบิดเข้ามาในพื้นที่รัฐสภา แต่ยอมรับว่าอาจจะใช้คำพูดที่ไม่ถูกต้องในการแถลงข่าว เพราะเห็นว่าสื่อมวลชนน่าจะชอบคำพูดที่เป็นประเด็น
นายมงคลกิตติ์ ยังยืนยันอีกว่า สารดังกล่าวไม่สามารถระเบิดเองได้เพียงส่วนประกอบเดียว และมองว่าการที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ออกมาแถลงเพื่อดำเนินคดีเรื่องนี้ เป็นเพราะไม่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ หากมีเวลาตนอยากจะสอนให้
อย่างไรก็ตามเมื่อเลขาธิการสภาฯดำเนินการเรื่องนี้ ตนก็พร้อมที่จะดำเนินการกลับกับเลขาธิการสภาฯ ด้วย เพราะเห็นว่ามีเรื่องที่ไม่ชอบหลายเรื่อง และเห็นว่าเลขาธิการสภาฯควรเอาเวลาไปดำเนินการเรื่องขยายเวลาสร้างอาคารรัฐสภาแก่งใหม่มากกว่า ยืนยันว่าการกระทำของตนไม่ผิดกฎหมาย เพราะมีเจ้าหน้านี้ตำรวจ EOD มาด้วยตัวเอง และพร้อมที่จะให้ EOD มาให้ ข้อมูลด้วย
+ อ่านเพิ่มเติม