เกิดเหตุระทึกบนน่านฟ้ามัลดีฟ เมื่อเครื่องบินแอร์เอเชียเกิดเสียงระเบิดขึ้นกลางอากาศ หลังบินขึ้นไปได้ไม่นาน ทำให้ต้องวนเครื่องบินกลับมาที่สนามบินมาเลอีกครั้ง ล่าสุดทางบริษัทฯ แจง ขัดข้องทางเทคนิค ยันการให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารสูงสุด
เมื่อช่วงกลางดึกของ วันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ทำการถ่ายภาพ ขณะเครื่องบินลำหนึ่งที่อยู่บนท้องฟ้า เผยให้เห็นแสงไฟคล้ายแสงเพลิงลุกขึ้นที่ด้านนอกตัวเครื่องบิน ซึ่งมองเห็นได้จากระยะไกล แต่เป็นระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ก่อนที่แสงเพลิงนั้นจะหายไป ซึ่งในผู้ใช้ทวิตเตอร์ยังได้ระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นรของสายการบินแอร์เอเชีย
ต่อมามีรายงานเพิ่มเติมว่า สายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD178 ให้บริการด้วยเครื่องบินแบบ Airbus A320-200 ทะเบียน HS-BBT ออกเดินทางจากท่าอากาศยานมาเล ประเทศมัลดีส์ มายังกรุงเทพฯ ขณะที่เครื่องบินไต่ระดับขึ้นมาอยู่ระดับ 5,000 ฟุตไม่นาน เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นที่เครื่องยนต์ตัวหนึ่ง พร้อม้เกิดประกายไฟลุกไหม้ออกมาจากเครื่องยนต์ ทำให้เกิดความเสียหาย นักบินจึงตัดสินใจหยุดไต่ระดับความสูง และดับเครื่องยนต์ที่มีปัญหา และบินวนกลับเพื่อลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินมาเลทันที โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุด บริษัท แอร์เอเชีย ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า เที่ยวบินที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นเที่ยวบินที่ FD178 ให้บริการจากท่าอากาศยานเมืองมาเล (มัลดีฟส์) สู่ กรุงเทพฯ เวลา 2 ทุ่ม 25 นาที ของคืนวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ตามกำหนดต้องถึงไทย ตีสอง 55 นาที แต่เกิดความขัดข้องทางเทคนิคขณะขึ้นบินออกจากท่าอากาศยานนานาชาติมาเล นักบินจึงได้ขออนุญาตบินวนกลับมาลงที่ท่าอากาศยานมาเลอีกครั้ง ตอน 2 ทุ่ม 41 นาที เท่ากับว่าเพิ่งบินขึ้นไปไม่ถึง 20 นาที
สำหรับผู้โดยสารที่อยู่บนเที่ยวบินดังกล่าวจำนวน 58 คน สายการบินได้ดูแลอย่างเต็มที่ และผู้โดยสารจะกลับมากับไฟล์ต FD176 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานมาเล มัลดีฟส์ เวลา เที่ยง 25 นาที และจะถึงท่าอากาศยานดอนเมือง ในเวลา 1 ทุ่ม 10 นาที วันนี้ (6 ก.ย.)
ทั้งนี้แอร์เอเชียขอยืนยันการให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารสูงสุด และปฏิบัติตามมาตรฐานสากลมาเป็นอันดับแรก และขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น
ขอบคุณภาพและคลิป : Outsider's Aviation, @waddey
+ อ่านเพิ่มเติม