นศ. สาวร้อง ปอท. ถูกมือดีปล่อยภาพเต้านมว่อนเว็บไซต์ หลังส่งภาพปรึกษาคลินิกศัลยกรรม ขณะที่อีกราย หลงเชื่อกิจกรรมทำหน้าอกฟรี ถูกหลอกให้ส่งภาพหน้าอกเพื่อเอาไปวิเคราะห์ก่อน แต่รูปกลับหลุดไปในโซเชียลฯ
วันที่ 10 มิ.ย. 62 เมื่อเวลา 09.30 น.ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พร้อม 2 นักศึกษาสาวผู้เสียหาย เดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อแจ้งความ
หลังถูกผู้ไม่หวังดีขู่ ส่งรูปหน้าอกประจาน เพื่อแลกกับให้ถ่ายรูปหน้าอกส่งให้ดู หากไม่ทำตามจะนำรูปถ่ายหน้าอกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเผยแพร่อยู่ในกลุ่มลามกอนาจาร
โดยผู้เสียหายรายแรกซึ่งเป็นนักศึกษา เผยได้ถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ไม่รู้จัก ขู่ว่าจะประจานภาพเต้านม โดยภาพเต้านมนั้น เป็นภาพถ่ายที่ส่งผ่านไลน์ให้คลีนิคศัลยกรรมชื่อดังเพื่อปรึกษาปัญหาเต้านมไม่เข้ารูปหลังได้เข้าทำศัลยกรรม โดยไม่รู้ว่าภาพดังกล่าวหลุดไปที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ตนไม่รู้จักได้อย่างไร
นอกจากนั้น ยังได้รับแจ้งจากเพื่อนๆ ว่า มีภาพหลุดของตนปรากฎตามเว็บไซต์ต่างๆ จนตนเองได้รับความอับอายไม่กล้าไปเรียน โดยผู้ที่นำภาพออกประจานนั้นอย่างท้าทายให้เข้าแจ้งความ
ส่วนผู้เสียหายรายที่ 2 นั้น ได้เป็นสมาชิกกลุ่มเฟซบุ๊กเสริมความงาม มีการจัดกิจกรรมเสริมความงามฟรี เช่น การเสริมจมูก การทำหน้าอกเสริมเต้านมซึ่งได้จัดกิจกรรม แจกหน้าอก คือสามารถทำหน้าอกฟรีกับ โรงพยาบาลเสริมความงามชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งตนเองได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
จนกระทั่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเข้ามาทักว่าตนเป็นผู้โชคดีได้ทำหน้าอกฟรี และขอให้ถ่ายรูปหน้าอกเพื่อวิเคราะห์ ตนเองหลงเชื่อถ่ายภาพหน้าอก ส่งผ่านไลน์ของทางโรงพยาบาลแห่งนี้ และมีผู้เข้ามาทักผ่านเฟซบุ๊กข่มขู่ให้ถ่ายรูปส่งไปเพิ่ม มิฉะนั้นจะเผยแพร่รูปถ่ายหน้าอกผ่านทางเว็บไซต์ ก่อนที่จะทำการบล็อกเฟซบุ๊ก ซึ่งความจริงแล้ว ภาพถ่ายหน้าอกของตนเองมีการเผยแพร่ไปแล้วก่อนหน้านี้บนสื่อออนไลน์
ทนายรัชพล เผยทั้งสองกรณีแม้จะเป็นคนละโรงพยาบาล แต่ภาพถ่ายที่แพร่ออกไปนั้นออกไปนั้น เป็นเว็บไซต์เดียวกัน คาดว่าน่าจะมีคนในคลินิกและสถาบันเสริมความงามเป็นผู้นำมาเผยแพร่ จึงฝากถึงผู้ที่จะปรึกษาคลินิกหรือสถานบันเสริมความงามเหล่านี้ไม่ควรที่จะถ่ายภาพส่งทางออนไลน์ เพราะอาจจะมีคนสวมรอยนำภาพถ่ายออกไปเผยแพร่ ควรจะปรึกษากับคลินิกหรือสถาบันเสริมความงามโดยตรง
การกระทำทั้งสองกรณีนี้ถือเป็นความผิดในการนำข้อมูลข่าวสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์และเข้าข่ายข่มขู่ ข่มขืนใจผู้อื่นจึงนำผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม