สถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดมหาสารคามเริ่มวิกฤต เนินทรายโผล่ท้ายฝายวังยางชัดเจน แจ้ง อบต. ที่ควบคุมดูแลสถานีสูบน้ำขนาดเล็กงดสูบน้ำเพื่อการเกษตรเด็ดขาด คงน้ำไว้สำหรับอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์เท่านั้น
นายพัฒนะ พลศรี หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่3 เขื่อนระบายน้ำวังยาง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนลาง เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เริ่มส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะที่บริเวณท้ายเขื่อนระบายน้ำวังยาง มีเห็นสันสันทรายโผล่ให้เห็นมากขึ้น จากระดับน้ำที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ เรื่องของการงดปลูกพืชฤดูแล้งทุกชนิด เนื่องจากน้ำต้นทุนคือเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อย โดยได้ขอความร่วมมือจาก อบต.ทุกแห่งที่ดูแลสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขนาดเล็ก ไม่สนับสนุนการสูบน้ำจากลำน้ำชีเพื่อทำการเกษตร ถึงแม้ว่าจะมีการร้องขอก็ตาม โดยปริมาณน้ำที่หล่อเลี้ยงลำน้ำมีไว้สำหรับอุปโภคบริโภคและเพื่อรักษาระบบนิเวศน์เท่านั้น
โดยปัจจุบันฝายวังยางได้มีการเปิดประตูระบายน้ำ 1 บาน จาก 5 บาน มีระดับน้ำหน้าเขื่อน 136.44 ล้านลูกบาศ์เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวานนี้ 1 เซนติเมตร ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 129.62 ล้านลูกบาศ์เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลดลงจากเมื่อวานนี้ 3 เซนติเมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่านหน้าเขื่อน 1.69 ลบ.ม./วินาที หรือคิดเป็น 0.14 ล้าน ลบ.ม./วัน มีปริมาณความจุ 28.34 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณเก็บกัก 33.59 ล้านลูกบาศก์เมตร
+ อ่านเพิ่มเติม