พ่อค้าส้มร้องดีเอสไอ หลังถูกตร.ยัดยา  รีดครึ่งแสนแลกอิสรภาพ เตรียมร้องศาลแพ่งเรียกร้องค่าเสียหาย หลังขายของไม่ได้
logo ข่าวอัพเดท

พ่อค้าส้มร้องดีเอสไอ หลังถูกตร.ยัดยา รีดครึ่งแสนแลกอิสรภาพ เตรียมร้องศาลแพ่งเรียกร้องค่าเสียหาย หลังขายของไม่ได้

ข่าวอัพเดท : พ่อค้าส้มตำคดียัดยาเข้าร้องดีเอสไอ ขอให้รับเป็นคดีพิเศษ หลังพยานในคดีถูกเสนอเงิน1ล้านบาท พร้อมเตรียมร้องศาลแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายหล พ่อค้าส้มตำโดนคดี,พ่อค้าส้มตำ,ร้องดีเอสไอ,ถูกตร.ยัดยา,ค่าเสียหายหลักล้าน

1,904 ครั้ง
|
06 พ.ย. 2561
พ่อค้าส้มตำคดียัดยาเข้าร้องดีเอสไอ ขอให้รับเป็นคดีพิเศษ หลังพยานในคดีถูกเสนอเงิน 1 ล้านบาท พร้อมเตรียมร้องศาลแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายหลักล้านบาท หลังประกอบธุรกิจไม่ได้
 
(6 พ.ย. 61) นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความนำตัวนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พ่อค้าส้มตำที่อ้างว่าถูกตำรวจยัดยาเสพติด เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และเป็นคคีพิเศษ หลังคู่กรณีพยายามสร้างพยานหลักฐานเท็จ 
 
โดยนายรณรงค์ ระบุว่า วันนี้ตนนำพยานที่รู้เห็นกับเหตุการณ์ที่มีบุคคลที่เข้ามาเป็นตัวกลางในเรื่องนี้ พยายามที่จะเสนอเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้กับพยานในคดี แลกกับการเซ็นต์ชื่อในเอกสารบางอย่าง เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ฝ่ายคู่กรณีได้เปรียบในด้านคดี ทั้งที่คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.แล้ว แต่ก็ยังมีคนพยายามเข้ามายุ่งเหยิงกับพยาน จึงขอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเกรงว่าครอบครัวผู้เสียหายจะไม่ปลอดภัย และไม่อยากให้ตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบ เพราะเกรงว่าข้อมูลจะรั่วไหล แต่ยืนยันว่าตำรวจสน.พญาไท เจ้าของคดีดูแลและคุ้มครองพยานเป็นอย่างดี ไม่ได้บกพร่องต่อหน้าที่ 
 
พร้อมกันนี้ในคำร้องที่นำมายื่นยังขอให้ดีเอสไอตรวจสอบวัตถุพยานชิ้นสำคัญที่สามารถยืนยันถึงเหตุการณ์ตำรวจทั้ง6 นายและผู้ร่วมขบวนการอีก 4 คน ที่ยัดยาและกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหาย แต่ผู้บังคับบัญชาไม่มีคำสั่งให้อายัดวัตถุพยานชิ้นดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงไม่ได้ระบุวัตถุพยานชิ้นนั้นในสำนวน โดยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมาผู้เสียหายได้ไปยื่นเรื่องดังกล่าวต่อป.ป.ช.แล้ว แต่ยังไม่มีการเรียกสอบในประเด็นดังกล่าว 
 
ขณะที่นายศักดิ์ชัย เปิดเผยว่าหลังจากที่ยื่นเรื่องให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ตนจะไปยื่นฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย จำนวน 1-5 ล้านบาท จากการที่ร้านส้มตำไม่สามารถเปิดร้านได้เป็นเวลา 2-3 เดือน ส่งผลให้ขาดรายได้ และผลกระทบด้านจิตใจ
 
ด้าน พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ระบุว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้ ก่อนจะตรวจสอบพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ที่กำหนดบทบาทหน้าที่ของการทำคดีของหน่วยงานต่างๆที่ไม่ ให้ทำงานทับซ้อนกัน 
 
โดยเบื้องต้นตรวจสอบพบว่าคดีนี้ผู้เสียหายได้ร้องต่อตำรวจสน. พญาไทและส่งสำนวนให้กับ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมาแล้ว
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง