หนุ่มร้องสายไหมต้องรอด โดนชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็น "ตำรวจกองปราบปราม" บุกค้นบ้านพัก ก่อนอุ้มไปนั่งรถยัดยาเสพติด รีดเงิน 1 แสนบาท แลกปล่อยตัว ตั้งคำถามตำรวจทำเกิดกว่าเหตุหรือไม่
วันที่ 11 ก.พ. 67 เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า วันเกิดเหตุตนนอนอยู่ในบ้าน มีนาย บี (นามสมมติ) เพื่อนของผู้เสียหาย มาหาเพื่อคุยเรื่องค่าบ้าน ก่อนชายอ้างเป็นตำรวจเข้ามาในบ้านตนบริสุทธิ์ใจ ตนก็ให้ค้นตัว ตนจะถามกลับว่ามีหมายค้นมั้ย เขาไม่ยอมบอก เขาพาตนเดินลงไปข้างล่างบ้านก่อนจะถามว่าตนมีอะไรจะสารภาพไหม ตนตอบว่าไม่มีครับ เขาบอกต่อว่าจะนำกำลังมาค้นก่อนจะโทรหาผู้กอง และพาตนขึ้นรถไปคุยที่ สน. ซึ่งตนเข้าใจว่าเขาเป็นตำรวจ
เขาพาตนไปแถวไทยรัฐก่อนคนเสื้อเหลืองจะหยิบยาขึ้นมาและบังคับให้ตนพูดชื่อ-นามสกุล ให้ตนยอมรับว่ายาเป็นของตน ตอนนั้นตนคิดว่าแค่ว่ายอมรับไปก่อนแล้วค่อยไปปฏิเสธที่ สน. เขายังถ่ายคลิปให้ตนตอบคำถามว่า ใช่ และให้ตนหาเงินมา 1 แสนบาท อ้างว่าจ่ายแล้วจะไม่ถูกดำเนินคดี ก่อนให้ตนโทรยืมเงินคนที่บ้าน ซึ่งทางบ้านตนไม่มีเงิน ก่อนจะต่อรองเหลือ 5 หมื่น, 3 หมื่น และ 2 หมื่น สุดท้ายตนถูกค้นตัวแล้วเขาเอาเงินตนไป 5 พัน แล้วปล่อยตนให้ลงจากรถ ก่อนให้ตนแอดไลน์และบอกให้ตนหาเงินมาให้ ตนยืนยันว่าตนไม่เคยค้าและเสพ
บี (นามสมมติ) เพื่อนของผู้เสียหาย มีชายฉกรรจ์ 3 คนยืนอยู่หน้าบ้าน ก่อนจะดันตนเข้าบ้าน บอกว่ามาคุยกัน ก่อนจะพาตนขึ้นชั้น 2 ตนจึงได้เรียก เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย บอกว่ามีตำรวจมา ชายฉกรรจ์ 3 คนนี้ไม่ได้แสดงบัตรว่าเป็นตำรวจ ตอนเอถูกจับตัวไปเอพยายามติดต่อหาตน แต่มีเสียงกระซิบตลอดเวลา
เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ตนนำคลิปและรูปชายฉกรรจ์ ส่งไปให้น้องที่อยู่ในกองปราบให้ตรวจสอบ ก่อนจะรู้ว่าชายทั้ง 4 คน ไม่ใช่ตำรวจกองปราบ 100% พอรู้ว่าไม่ใช่ตำรวจกองปราบแต่ดูพฤติกรรมการก่อเหตุมีโอกาสที่จะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐได้ ตนเลยประสานไปที่ท่านผู้กำกับ สน.สายไหม ให้ตรวจสอบว่าเป็นตำรวจจากหน่วยไหนหรือเป็นพลเรือน ขณะนี้รู้ตัวคนร้ายบางส่วนแล้ว เคสนี้ต้องสืบสวนขยายผลให้ลึก สน.สายไหม มีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม 400 ตัว ตำรวจจึงสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็วเกือบทุกคดี
นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน เบื้องต้นกลุ่มนี้ถ้าไม่ใช่ตำรวจ จะโดนข้อหาบุกรุก-ปล้นทรัพย์ ติดคุกสูงสุด 15 ปี หน่วงเหนี่ยวกักขัง พกพาอาวุธปืน ทำร้ายร่างกาย ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะโดนโทษเพิ่มไปอีก กลุ่มคนพวกนี้อาจจะเคยอยู่ในกลุ่มของเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดถึงรู้วิธีการและรู้กลุ่มเป้าหมาย เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตนก็เคยเจอเคสแบบนี้ ตนอยากฝากผู้กำกับดูแลพื้นที่ ให้มีสายตรวจคอยดูแลผู้เสียหาย อยากเตือนภัยเคสแบบนี้กลุ่มคนที่ก่อเหตุส่วนมากจะแต่งกายนอกเครื่องแบบและแสดงพฤติกรรมคล้ายตำรวจ วิธีปฏิบัติเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้คือ ให้นำตัวเองออกมาในที่ที่มีคนพลุกพล่าน ก่อนจะโทรแจ้งตำรวจในพื้นที่หรือตะโกนให้คนคนแถวนั้นได้ยิน
พ.ต.อ. รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม (โฟนอิน) จากการสอบสวนสืบสวน พบว่าการกระทำคนร้ายมีลูปการก่อเหตุตั้งแต่นัดพบกันและกลับไปวนลูปเดิม ฝั่งสืบสวนรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้วทั้งหมด 4 คน และสามารถจับได้แล้ว 1 คน ชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คน เป็นประชาชนธรรมดา ทาง สน.สายไหม ได้เน้นย้ำการป้องกันเหตุและสืบสวน มั่นใจว่าอีก 3 คน สามารถตามจับได้แน่นอน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” ดำเนินรายการโดย "ทิน โชคกมลกิจ" ทุกวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม