พันตำรวจโทกรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยพันตำรวจตรีวรณัณ ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำตัวนายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางเข้าพบพลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากรณีเป็นบุคคลที่ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวโพสต์ข้อความว่าตำรวจจะเข้าบุกค้นวัดดังในกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา
(คลิปข่าวจากรายการ 12 มิ.ย. 61)
ซึ่งภายหลังจากสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง ผู้บังคับการปราบปรามระบุว่าในวันนี้นายพิสิฐชัย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งนายพิสิฐชัย รับสารภาพว่าเป็นผู้โพสข้อความดังกล่าวจริง ส่วนในรายละเอียด นายพิสิฐชัยขอกลับไปจัดทำคำให้การเป็นเอกสารกลับมายื่นยังพนักงานสอบสวนอีกครั้ง และเมื่อเสร็จสิ้นการสอบปากคำก็จะปล่อยตัวโดยไม่ต้องประกันตัวใดๆ เนื่องจากนายพิสิฐชัยเดินทางเข้าพบเองโดยที่ตำรวจยังไม่ได้มีการออกหมายเรียก
ในส่วนของการดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริตเงินทอนวันล็อตที่ 4 ทางกองปราบปรามได้มีการตรวจสอบกับ ปปป. แล้วทราบว่าการดำเนินการขณะนี้ ปปป. ยังตรวจสอบไม่ถึง 4 วัดที่นายพิสิฐชัยโพสชื่อมา และรวมถึงกองปราบปรามจะยังไม่มีปฏิบัติการตรวจค้นวัดใดเพิ่มเติมในตอนนี้ ส่วนการที่นายพิสิฐชัย ออกมาโพสแบบนี้ไม่ได้ทำให้การทำงานของกองปราบปรามทำงานยากขึ้นแต่อย่างใด
ขณะที่พันตำรวจโทกรวัชน์ ระบุว่าจนถึงขณะนี้จากการสอบถามนายพิสิฐชัย ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่โพสข้อความดังกล่าว แต่เชื่อว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรต้องรอดูคำบรรยายให้การอีกครั้ง ส่วนคำสั่งของทางต้นสังกัดขณะนี้มีคำสั่งให้พ้นจากตำแห่งเดิมและให้มาดำรงตำแหน่งที่สำนักผู้เชี่ยวชาญกองคดีพิเศษ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สามารถควบคุมดูแลได้ง่ายขึ้น ส่วนจะมีการดำเนินการทางวินัยเพิ่มเติมหรือไม่ต้องรอการพิจาณาอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ฯ ให้ข้อมูลว่าประมาณ 2 เดือนที่แล้ว มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาขอข้อมูลเอกสารการเงินของวัด พันตำรวจโทกรวัชร์ ระบุว่าไม่ทราบ และขอกลับไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
+ อ่านเพิ่มเติม