'ศรีวราห์' เร่งรัดสำนวน 3 ข้อหาเอาผิด 6 แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง
logo ข่าวอัพเดท

'ศรีวราห์' เร่งรัดสำนวน 3 ข้อหาเอาผิด 6 แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง

ข่าวอัพเดท : รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเร่งรัดสำนวนคดี 3 ข้อหาเอาผิด "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" ลักทรัพย์ - ทำลายทรัพย์สินและชุมนุมเกิน 5 คน 6 แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง,แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง,รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

8,565 ครั้ง
|
22 พ.ค. 2561
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเร่งรัดสำนวนคดี 3 ข้อหาเอาผิด "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" ลักทรัพย์ - ทำลายทรัพย์สินและชุมนุมเกิน 5 คน ขึ้นไป
 
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามานะกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทาง มาที่ สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสำนวนและเร่งรัดคดี 3 ข้อหาเพื่อเอาผิดกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยข้อหาแรก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. แจ้งความเอาผิด 6 แกนนำ นายรังสิมันต์ โรม, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, นายเอกชัย หงส์กังวาน, นางสาวปิยรัตน์ จงเทพ, นางสาวณัฐฐา มหัทธนา และนายนิกร วิทยาพันธ์ ข้อหาขัดคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ร่วมกันมั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข้อหาที่สอง ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมตัดกุญแจประตู 3 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และสามข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมขโมยน้ำ - ไฟหลวง ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมมีการต่อสายตรงกับหม้อแปลงไฟของการไฟฟ้านครหลวงโดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งสอบปากคำพยานไปแล้ว 2-3 ปาก และทางตำรวจได้ทำหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และผู้อำนวยการเขตการไฟฟ้านครหลวง วัดเลียบ ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากมีความเสียหายเกิดขึ้น และขั้นตอนหลังจากแจ้งความ ตำรวจก็จะออกหมายเรียกกลุ่มผู้ชุมนุมให้มารับทราบข้อหา 
 
ส่วนการประเมินสถานการณ์ขณะนี้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันหากกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนหรือฝ่าฝืนคำสั่งจะต้องถูกดำเนินคดีทันที ซึ่งทางรองนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ตำรวจใช้มาตราการประนีประนอมและยืดหยุ่นกับกลุ่มผู้ชุมนุมให้มากที่สุด
 
ทางด้านการไฟฟ้านครหลวงวัดเลียบ ก็ได้ให้นายสัญชัย เทศธรรม ผู้ช่วย ผอ.กองบริการการจำหน่าย และนายฐิติพงศ์ สมบูรณ์ศิลป์ ช่างเทคนิคสายอากาศ 4 แผนกก่อสร้างและบำรุงระบบจำหน่าย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง หลังตรวจสอบพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมลักลอบจั๊มไฟฟ้ามาใช้ในการชุมนุมที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ โดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายลักลอบใช้ไฟหลวง มีความผิดฐานลักทรัพย์ ซึ่งมีพยานเห็นกลุ่มผู้ชุมนุมทำการจั๊มไฟ แต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร และจากการตรวจสอบพบมีการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า 17.92 กิโลวัตต์ชั่วโมง หรือประมาณ 122.50 บาท แยกเป็นกระแสไฟที่ใช้กับเครื่องเสียง 10 ชั่วโมง และใช้ในแสงสว่าง 11 ชั่วโมง
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง