ร้านค้าโวย! โรงงานน้ำแข็งจับมือกันขึ้นราคา เถ้าแก่อ้างมีการปรับขึ้นตามแรงงานขั้นต่ำ

4,154 ครั้ง

15 พ.ค. 2561

แชร์ข่าวไปที่

ร้านอาหารในจังหวัดบุรีรัมย์ โวยโรงงานน้ำแข็งประกาศขึ้นราคาจากถุงละ 30 เป็น 40 บาท พร้อมกันทุกโรงงานโดยไม่บอกล่วงหน้า ทักท้วงอ้าง 'เขาบังคับให้ขึ้น' ทั้งปริมาณลดลง ระบุ แก๊สขึ้น,ค่าแรงขึ้นเป็นธรรมดา แต่น้ำแข็งขึ้นเป็นเรื่องผิดปกติ ร้านค้าได้รับผลกระทบ วอนตรวจสอบปริมาณต่อถุง และต้นทุนการผลิต

ข่าวอัพเดท : ร้านค้าโวย! โรงงานน้ำแข็งจับมือกัน

วันนี้ (15 พ.ค.61) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารในจังหวัดบุรีรัมย์ ว่ากำลังได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะร้านอาหารที่จำหน่ายให้กับนักศึกษาที่กำลังเปิดเทอม เนื่องจากมีการปรับขึ้นราคาน้ำแข็งจากถุงปุ๋ยละ 30 บาท มาเป็นถุงละ 40 บาท โดยไม่มีการบอกล่วงหน้า ถือว่าเป็นการปรับราคาขึ้นตามอำเภอใจ และสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารเป็นวงกว้าง

จากการตรวจสอบที่ร้านแห่งหนึ่งเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดยนายชวเลิศ สุนิพันธ์ อายุ 55 ปี เจ้าของร้านออกมาระบุว่า ร้านตัวเองขายกระเพาถาดเพียงจานละ 40-50 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 70 เปอร์เซ็นต์เป็นนักเรียนนักศึกษา จำนวน 1 ถาดสามารถเอาจานไปแบ่งให้เป็น 2 จานได้ มีต้มจืดฟรี น้ำฟรี ที่ผ่านมาการประกอบการถือว่าอยู่ได้ ถึงแม้จะได้กำไรต่อจานน้อย แต่อาศัยจำนวนมาก

แต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รถส่งน้ำแข็งประจำเรียกเก็บค่าน้ำแข็งถุงละ 40 บาท จากปกติถุงละ 30 บาท ตนเองตกใจมากและถามต่อ พนักงานส่งน้ำแข็งบอกว่าเถ้าแก่ให้ปรับราคาขึ้น และทุกโรงงานเหมือนกันหมด เพราะมีการปรับขึ้นราคาแรงงานขั้นต่ำวันละ 8 บาท

จากนั้นพยายามจะเปลี่ยนคนส่ง ก็ได้รับคำตอบเดียวกันว่าขึ้นราคาเท่ากันหมด เมื่อโทรศัพท์สอบถามโรงงานน้ำแข็งโดยตรง ก็ได้รับคำตอบอีกว่า ทางโรงน้ำแข็งทุกโรงในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประชุมตกลงกันแล้วว่าจะปรับขึ้นราคาถุงละ 10 บาท

นายชวเลิศ ยังบอกด้วยว่า การปรับขึ้นราคาน้ำแข็งดังกล่าวถือว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค เพราะปรับขึ้นถึงเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ในคราวเดียว ต่างจากการปรับขึ้นราคาสินค้าชนิดอื่น เช่นแก๊ส ไข่ ซึ่งมีการปรับขึ้นลงตามกลไกของตลาด ครั้งนี้เอาการปรับแรงงานขั้นต่ำวันละ 8 บาทมาเป็นเหตุผลถือว่าเอาเปรียบผู้บริโภค เคยไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ก็จะให้แม่ค้าพ่อค้า มากันหลายคน แต่ทำไม่ได้เพราะแต่ละคนต้องมีภาระกิจขายของ

จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นพาณิชย์จังหวัด หรือ สคบ.เข้ามาตรวจสอบขั้นตอนการผลิตและต้นทุนการผลิต รวมถึงปริมาณน้ำแข็งต่อถุงควรจะมีน้ำหนักเท่าไหร่ต่อถุงที่จะเหมาะสมกับราคา เพราะที่ผ่านมาจากการสังเกต ถุงบรรจุน้ำแข็งเล็กลงจากเดิม

จากการสอบถามนายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ บอกว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนแล้ว จึงทำการออกสำรวจและรายงานไปที่สำนักงานแข่งขันทางการค้ากรมการค้าภายในไปแล้ว ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้ามาตรวจสอบหรือได้รับการมอบหมาย จึงจะดำเนินการต่อไปได้

แชร์ข่าวไปที่

แรงงานขั้นต่ำ

โรงงานน้ำแข็ง

น้ำแข็งแห้ง

น้ำแข็งเย็น

บุรีรัมย์

ร้านค้าโวย

แม่ค้าร้องเรียน

ปากท้องร้องทุกข์