วันนี้คณะกรรมาธิการของ สนช.ได้รายงานผลการตรวจสอบประวัติและความประพฤติผู้ถูกเสนอชื่อเป็นกรรมการ กกต. 7 คน ให้ที่ประชุม สนช.รับทราบ ก่อนจะลงคะแนนลับ ให้สมาชิกกาบัตรว่าจะเห็นชอบ-ไม่เห็นชอบใครบ้าง แล้วนำไปหย่อนลงในหีบบัตรลงคะแนน ที่สุดแล้วไม่มีใครได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง คือ 124 เสียง เท่ากับว่า สนช.มีมติไม่เห็นชอบผู้ถูกเสนอชื่อทั้งหมด
โดยผู้ถูกเสนอจากคณะกรรมการสรรหา 5 คน ประกอบด้วย
1. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เห็นชอบ 27 คะแนน / ไม่เห็นชอบ 156 คะแนน
2. ศ.ดร.เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ เห็นชอบ 10 คะแนน / ไม่เห็นชอบ 175 คะแนน
3. นางชมพรรณ์ พงษ์เจริญ สุธีรชาติ เห็นชอบ 16 คะแนน / ไม่เห็นชอบ 168 คะแนน
4. รศ.ดร.อิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ เห็นชอบ 30 คะแนน / ไม่เห็นชอบ 149 คะแนน
5. นายประชา เตรัตน์ เห็นชอบ 57 คะแนน / ไม่เห็นชอบ 125 คะแนน
ผู้ถูกเสนอชื่อจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 2 คน ประกอบด้วย
6. นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี เห็นชอบ 46 คะแนน / ไม่เห็นชอบ 128 คะแนน
7. นายปกรณ์ มหรรณพ เห็นชอบ 41 คะแนน / ไม่เห็นชอบ 130 คะแนน
การลงมติครั้งนี้เป็นการล้มกระดานว่าที่ กกต.ใหม่ทั้ง 7 คน เพื่อสรรหากันใหม่ เท่ากับว่า สนช. Set Zero กกต.รอบ 2 เพราะรอบแรก สนช.เห็นชอบ พ.ร.ป.กกต.ให้ Set Zero กกต.ชุดปัจจุบัน พอสรรหามาใหม่ก็ Set Zero ล้มกระดานอีกรอบ
สำหรับเหตุผลการล้มกระดานครั้งนี้ สมาชิก สนช. 3-4 คน ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องการประชุมลับก่อนลงคะแนน โดยบอกเพียงว่า การลงคะแนนก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากที่ประธาน กมธ.ตรวจสอบประวัติและความประพฤติ ได้แถลงรายละเอียดในที่ประชุมลับ รวมถึงเอกสารต่างๆ ที่ กมธ.รวบรวมส่งมาให้
ขั้นตอนหลังจากนี้ จะต้องเริ่มกระบวนการสรรหากันใหม่ โดยประธานศาล , องค์กรอิสระ และ สนช. จะต้องประชุมแล้วตั้งคณะกรรมการสรรหาชุดใหม่ภายใน 20 วัน จากนั้นก็เริ่มเปิดรับสมัครและสรรหาภายใน 90 วัน แล้วให้ สนช.ลงมติใหม่ภายใน 45 วัน รวมเวลาทั้งหมด 155 วัน
แต่การล้มกระดานครั้งนี้ไม่มีผลต่อ Road Map การเลือกตั้ง เพราะ กกต.ชุดปัจจุบันยังทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ และยังมีอำนาจเต็มในการจัดการเลือกตั้งทั้งในระดับชาติ และระดับท้องถิ่น
+ อ่านเพิ่มเติม