ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมพิจารณาลาออกจากราชการ หากถูกสังคมกดดันจนไม่มีที่ยืน ขณะเดียวกันยืนยันไม่ได้มีอำนาจอนุมัติให้เข้าพื้นที่ แค่ให้คำแนะนำเท่านั้น
นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เปิดเผยถึงกรณีที่ได้รับคำเชิญเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. ในคดีการลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี โดยยืนยันว่าไม่ทราบประเด็นที่พนักงานสอบสวนต้องการข้อมูล ซึ่งก็จะเข้าให้ข้อมูลไปตามข้อเท็จจริงที่ทราบ
โดยกรณีการเข้าพื้นที่ของนายเปรมชัยกับพวก เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ได้รับการประสานจาก นายนพดล พฤกษะวรรณ ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการในกรมอุทยาน ว่ามีคนรู้จักจะขออนุญาตเข้าพื้นที่ไปศึกษาธรรมชาติ ซึ่งตนได้อธิบายไปว่า อำนาจหน้าที่ไม่ได้อยู่ในส่วนของตนรับผิดชอบแล้ว ต้องเป็นของพื้นที่บ้านโป่งเป็นผู้อนุญาต จึงได้ให้ข้อแนะนำเบอร์โทรศัพท์ในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ และได้โทรศัพท์ไปบอกกับเจ้าหน้าที่บ้านโป่งว่าจะมีคนติดต่อเข้าไปขออนุญาต หลังจากนั้นก็ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับนายนพดลอีก 2 ครั้ง โดยครั้งหนึ่งคือตอนที่ไม่สามารถติดต่อนายนพดลได้ และครั้งสุดท้ายคือหลังจากที่ติดต่อกับนายนพดลได้แล้ว
ทั้งนี้ยังยืนยันว่าไม่รู้จักกับ นายนพดลหรือนายเปรมชัย เป็นการส่วนตัว รวมถึงนายวิเชียรที่เป็นหัวหน้าชุดจับกุม ก็รู้จักกันเพียงผิวเผิน
นอกจากนี้ตนยังไม่เคยเห็นหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่ และการออกหนังสือนุญาต ก็ต้องยื่นกับพื้นที่บ้านโป่ง ไม่ได้ส่งมาให้ตนอนุมัติแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกันยอมรับว่ารู้สึกท้อแท้กับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าการที่เป็นคนแนะนำเรื่องการประสานงาน จนนำไปสู่การลักลอบล่าสัตว์ป่า จะทำให้เกิดเหตุสลดใจขึ้น ไม่คิดว่ายังมีคนประเภทนี้อยู่ในสังคม และยังถูกสังคมมองว่าตนเองเป็นผู้ให้การสนับสนุน และหากสุดท้ายไม่มีที่ยืนในสังคมก็อาจพิจารณาลาออกจากตำแหน่ง ก่อนเกษียนอายุราชการที่เหลืออีกเพียง 1 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม