รองผบก.น.5 เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ช่วย'ยิ่งลักษณ์' หนี

2,522 ครั้ง

10 ต.ค. 2560

แชร์ข่าวไปที่

เมื่อเวลา 10.00 น.คณะกรรมการสอบวินัย ชุดของ พล.ต.ต ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกตัว พ.ต.อ. ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทางวินัย สืบเนื่องจากผลการสืบสวนข้อเท็จจริงคณะกรรมการสอบวินัยมีมติว่า พ.ต.อ. ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ มีความผิดวินัยร้ายแรง ตามมาตรา 78 / 79 ของพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 หลังพบมีความผิดด้วยการใช้รถผิดกฎหมาย พานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ตามคำรับสารภาพในคราวแรกของ พ.ต.อ. ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ที่แม้จะมีการกลับคำให้การในภายหลังก็ตาม โดยคณะกรรมการฯ พิจารณาหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด และหลักฐานในรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ควบคู่กันไป

โดย พ.ต.อ. ชัยฤทธิ์ ได้เข้าไปพบกับคณะกรรมการสอบสวน เพื่อสอบปากคำ แต่ พ.ต.อ. ชัยฤทธิ์ชัยฤทธิ์ ปฏิเสธที่จะให้ถ่ายภาพ แต่ยืนยันว่า พร้อมน้อมรับผลการสอบสวน แม้ว่าผลการสอบสวนจะมีโทษสูงสุด คือ ไล่ออกก็ตาม

ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า เบื้องต้น คณะกรรมการจะสอบปากคำพันตำรวจเอก ชัยฤทธิ์ เสร็จแล้วก็จะแจ้งข้อกล่าวหาแล้วสรุปรายงานผลส่งให้ พลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโทษทางวินัยต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันขณะนี้ ต้องรอการส่งผลการสอบสวน ที่ยังไม่เสนอมา แต่ส่วนตัวทราบว่า ในส่วนคดีอาญายังไม่พบการกระทำผิด ซึ่งประเด็นคดีอาญา รอการสอบสวนของ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เรื่องดีเอ็นเอ ในรถยนต์และป้ายทะเบียนที่สวมใส่รถยนต์โตโยต้า คัมรี่

สำหรับผลของคดีวินัยจะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการคดีทางวินัย อัตราโทษมีหลายอย่างตั้งแต่ตัดเงินเดือน กักขัง กักยาม ปลดออก และให้ออก ส่วนในคดีอาญา ไม่สามารถดำเนินคดีกับพันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ได้ เนื่องจาก ผลการตรวจดีเอ็นเอในรถโตโยต้า คัมรี่ เทียบกับหลักฐานที่เก็บได้จากบ้านพักของนางสาวยิ่งลักษณ์ ยังไม่ตรงกัน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐาน จะมีการตรวจซ้ำอีก เพื่อให้เกิดความชัดเจน เนื่องจาก ภายในรถมีสารปนเปื้อนจำนวนมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์ข่าวไปที่

ยิ่งลักษณ์

รับทราบ

ข้อกล่าวหา

หนี

สอบสวน