แม่ร้องปวีณา ลูกชายม.3 ถูกเพื่อน-รุ่นพี่แกล้งโหด จับขังในตู้ ฉีดยาฆ่าแมลงอัด-จุดไฟเผา อาการสาหัส
logo ข่าวอัพเดท

แม่ร้องปวีณา ลูกชายม.3 ถูกเพื่อน-รุ่นพี่แกล้งโหด จับขังในตู้ ฉีดยาฆ่าแมลงอัด-จุดไฟเผา อาการสาหัส

14,762 ครั้ง
|
04 ต.ค. 2560

เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันนี้ (4 ตุลาคม) ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ปทุมธานี หญิงชาว จ.อุทัยธานี อายุ 42 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กรณี ลูกชายวัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ถูกเพื่อนและรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันรวม 3 คน แกล้งปิดประตูใส่กุญแจขังไว้ในช่องเก็บของ อาคารเรือนนอน แล้วฉีดยาฆ่าแมลงเข้าไปจนไม่มีอากาศหายใจ จากนั้นได้จุดไฟแช็คจนทำให้เกิดประกายไฟลุกท่วมภายในช่องเก็บของดังกล่าว ก่อนจะเผาไหม้ร่างกายของลูกชาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา

แม่ของเด็กชาย เผยว่า ลูกชายเล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ระบุว่าหลังเลิกเรียนตนเองกำลังจะนำหนังสือเรียนไปเก็บในช่องเก็บของ ใต้อาคารเรือนนอน ซึ่งขณะนั้นบริเวณหน้าช่องเก็บของได้มีเพื่อนและรุ่นพี่ 3 คน นั่งเล่นหมากเก็บอยู่ โดย 1 ใน 3 คน เอาหนังสือมาตีที่ศีรษะ แต่ตนไม่เล่นด้วยจึงเดินหนี ปรากฎว่าเมื่อลูกชายเข้าไปในช่องเก็บหนังสือ เด็กคนหนี่งก็ได้เดินมาปิดประตูแล้วเอากุญแจคล้องไว้เพื่อไม่ให้เปิดออกได้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงเพื่อนอีกคนตะโกนบอกให้ไปเอากระป๋องยาฆ่าแมลงมา และได้ฉีดยาฆ่าแมลงเข้ามาในช่องเก็บของ ทำให้หายใจไม่ออก ลูกชายตะโกนบอกให้หยุดฉีด แต่เพื่อนไม่ยอมหยุด ก่อนจะได้ยินเสียงจุดไฟ และมีเปลวไฟพุ่งเข้ามาตามช่องประตูห้องเก็บของ ทำให้ถูกไฟไหม้ตามร่างกาย และมีเสียงระเบิดภายในช่องเก็บของที่ตนเองอยู่ ทำให้เพื่อนตกใจจึงรีบเปิดประตูช่องเก็บของและเห็นว่าไฟไหม้ตนเองและหนังสือ จึงได้ฉีดน้ำดับไฟ และตามคุณครูมาที่เกิดเหตุ คุณครูจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล

หลังเกิดเหตุ โรงเรียนได้เรียกผู้ปกครองของเด็กชายที่บาดเจ็บ และผู้ปกครองของเด็กทั้ง 3 คนที่ก่อเหตุเข้ามาเพื่อพูดคุย โดยทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และเบื้องต้นตกลงกันว่าให้ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 3 คน ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท แต่มีผู้ปกครองของเด็กเพียงคนที่ช่วยเหลือมา 3 พันกว่าบาทเท่านั้น แต่ผู้ปกครองของเด็กอีกสองคนแจ้งว่าไม่มีเงิน และทางโรงเรียนก็ไม่ได้หยิบยื่นความช่วยเหลือแต่อย่างใด ทั้งยังขอร้องไม่ให้ตนไปแจ้งความเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ลูกชายของตนยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะยังเดินไม่ได้ และแขนข้างหนึ่งก็อาจจะพิการ อีกทั้งแพทย์ก็ให้ระวังเรื่องการติดเชื้อ คาดว่าจะต้องใช้เวลาในการรักษาตัวอีกระยะหนึ่ง ทางตนและญาติได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สภ.เมืองชัยนาท และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ”