ภาค 5 ! ไขปริศนา “แอม ไซยาไนด์” เจาะจงลงมือ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์

มากันต่อในคดี "แอม ไซยาไนด์" ที่ล่าสุดมีการรวบอดีตสามี รอง ผกก. ของแอมหลังพบมีเอี่ยวกับคดี อีกทั้งที่ "บิ๊กโจ๊ก" ออกมาแถลงพฤติกรรมการก่อเหตุ มักก่อเหตุในวันหยุด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันนี้เรามาเจาะลึกพฤติกรรมนี้กัน ! 

 

 

            วันที่ 3 พ.ค. 66 ดาบตำรวจ นิติพนธ์ (ดาบต้า) สามีของผู้เสียชีวิต (หนิม) ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตอนที่หนิม ภรรยาของตนเสียชีวิต ช่วงแรก ตนก็สงสัยไปหมดทุกเรื่อง ว่าเขาถูกสัตว์มีพิษทำร้าย หรือใครทำร้ายหรือไม่ แม้กระทั่งเรื่องถูกวางยา ตนก็สงสัย แต่สาเหตุที่ตอนนั้นตนไม่ติดใจการเสียชีวิต เพราะประเด็นที่ตนสงสัย พอมาหามูลความจริง มันไม่พบอะไรเลย ไม่มีร่องรอยงัดแงะเข้ามาในบ้าน ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ชันสูตรศพแล้วก็ปกติดี ไม่มีสัตว์มมีพิษเข้ามาทำร้าย ตนเลยเข้าใจว่าเป็นสภาวะหัวใจล้มเหลวจากร่างกายของเขาเอง ซึ่งหนิมเป็นคนไม่ออกกำลังหาย พ่อเขามีประวัติเป็นโรคหัวใจ และเพิ่งคลอดลูกตอนอายุ 40 ปี 

 

 

            ทั้งนี้ หนิม รู้จักกับแอม จากการ ลงทุนค้าขายน้ำมันพืช ซึ่งหนิมนั้น ถูกโกงไปประมาณ 40,000 บาท และคนที่โกงนั้นเป็นเพื่อนแอม ชื่อว่า ออย โดยแอมเป็นคนแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน ออย จึงได้ชักชวนหนิมมาลงทุนซื้อขายกัน ต่อมา หลังจากภรรยาของตนเสียชีวิตวันที่ 25 พ.ย. 63 เช้าวันต่อมา แอมทำทีโทรมาหาตน ถามหาหนิม ตนจึงบอกข่าวการเสียชีวิตของหนิม ซึ่งแอมก็ได้แสดงความเสียใจ เห็นอกเห็นใจ และบอกเกี่ยวกับเรื่องที่หนิมถูกโกง ทำให้หนิมนั้นเครียด ถึงขั้นอยากตาย ทว่า แอม ได้เสนอตัวเป็นคนติดตามหนี้ก้อนดังกล่าวให้ ซึ่ง ณ เวลานั้นตนยังรู้สึกทราบซึ้งใจในน้ำใจที่เขามอบให้ ซึ่งเขาก็บอกว่าเขาได้ติดต่อไป แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ รวมกับที่ตนติดต่อไปตามทวงเองด้วย ทำให้ได้เงินกลับมาประมาณ 30,000 บาท ขาดอีก 13,000 บาท เหตุผลที่ออยหยุดชำระหนี้ไป เขาบอกว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ต้องผ่าหน้าอก ตอนนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียง ส่วนประเด็นที่ แอมให้ออย โอนเงินหนี้ 40,000 บาท ให้ตัวเขาเองโดยอ้างว่าหนิมเป็นหนี้แอมอยู่ ส่วนตัวตนนั้น ตนรับฟังไว้ แต่ตนคิดว่าทั้งแอม และออย เป็นมิจฉาชีพ เขาไม่มีทางพูดความจริงทั้งหมดแน่นอน ขณะเดียวกัน ตนก็มีความสงสัยในตัวของออย จึงอยากให้เคสของหนิม เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อจะได้ใช้เครื่องมือสืบหาความจริง 

 

            นอกจากนี้แอม ยังเคยส่งยาลดน้ำหนักมาให้หนิมครั้งแรกวันที่ 23 พ.ย. 63 แต่ยาดังกล่าวมันเยิ้ม แอมจึงส่งมาให้ใหม่อีกครั้งในวันที่ 25 พ.ย. 63 เป็นวันที่หนิมเสียชีวิต โดยในวันนั้น หนิมอยู่กับลูกชายวัย 5 ขวบ และลูกสาววัย 1 เดือน ซึ่งลูกชายได้เล่าให้ฟังว่า หนิม สั่งโดนัทมากิน เมื่อหนิมกินโดนัทเข้าไปก็เป็นลมหมดสติไปเลย แต่ทว่า เป็นคำเล่าของเด็กวัย 5 ขวบ ซึ่งตนเข้าใจว่าภรรยาน่าจะกินยาพิษเข้าไปมากกว่า ซึ่งในวันที่ 26 พ.ย. 63 ตนได้เข้าไปดูที่ห้องที่เกิดเหตุ ตนจำได้ว่ามันมาแคปซูลยาอยู่หัวเตียง 

 

 

            ด้าน รศ.พ.ต.ท.ดร. กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต กล่าวว่า จากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. บอกว่า เวลาที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ(แอม) มักจะมีการกลบเกลื่อนร่องรอยถิ่นที่อายุ เช่น ไปต่างจังหวัดกับคนใกล้ชิด หรืออดีตสามี ซึ่งเขาทำไปเพื่อยืนยันว่าตัวเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหยื่อที่อาจจะมีการเสียชีวิต หรือที่สันนิษฐานกันว่าเป็นการวางยา โดยคิดว่าอดีตสามีเป็นตำรวจ น่าจะเป็นเกราะคุ้มครองเขาได้ ขณะที่ตัวผู้ต้องหา ก็มีวิธีการคิดที่แยบยลไว้ระดับหนึ่ง โดยเขามีการลบแชตการสนทนาระหว่างเขา กับเหยื่อ เพื่อที่เวลา ญาติ หรือตำรวจ มาดูข้อมูล อาจจะไม่พบ แต่เขาอาจจะลืมไปว่าทุกวันนี้มันมีเทคโนโลยีที่สามารถตรวจสอบได้ 

 

 

            ส่วนประเด็นที่ว่า ผู้ต้องหาชอบก่อเหตุวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพราะว่า อดีตสามี อาจจะทำงานเกี่ยวกับการหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งปกติตำรวจจะมีการเข้าเวรผลัดกันไป แต่ก็จะมีตำรวจบางส่วนที่ไม่ต้องเข้าเวร เช่น ตำรวจที่ทำงานกับผู้บังคับบัญชา หรือตำรวจที่ทำงานในส่วนธุรการ ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลว่า ตัวแอมกับอดีตสามี หย่ากันแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกันเพราะเห็นแก่ลูก โดยนอนแยกเตียงกัน ซึ่งก็มีข้อสงสัยอีกว่า หย่ากันแล้วทำไมต้องอยู่บ้านเดียวกัน ต้องไปดูว่าหย่ากันโดยพฤตินัยหรือนิตินัย 

 

 

            ฟาก เกิดโชค เกษมวงศ์จิตร  รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า คดีนี้ กระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญมาก โดย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการเชิงรุก โดยการไปรับเรื่องของผู้เสียหายทั้ง 15 ราย เพื่อเตรียมการจะเยียวยาความเสียหาย ซึ่งตอนนี้รับเรื่องร้องเรียนมาเรียบร้อยหมดแล้ว แบ่งเป็นเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ทั้งนี้ โดยปกติเราเยียวยาในกรณีผู้เสียเสียชีวิต ที่เกิดจากการกระทำความผิดของบุคคลอื่น เราจะจ่ายอยู่ที่ 110,000 บาท ทว่าเคสนี้ เป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีแนวคิดว่าอาจจะเพิ่มเงินเยียวยาให้เป็น 150,000 บาท เป็นกรณีพิเศษ

 

 

            ทั้งนี้ ทางทีมงานรายการถกไม่เถียงได้คุยกับ ออย (นามสมมติ) ผู้ที่แอมแนะนำให้รู้จักกับหนิม โดยเธอบอกว่า ขอยืนยันว่าตัวเขาไม่ได้โกง ซึ่งได้โอนเงินคืนไปหมดแล้ว ไม่ขอพูดอะไรอีก สิ่งที่ดาบต้าพูดมาไม่เป็นความจริงทั้งหมดเลย และยังบอกอีกว่าที่รายการทำประเด็นนี้ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย 

 

            นอกจากนี้ ทางทีมงานรายการ ได้มีการนำชื่อของ ออย (นามสมมติ) พบว่า มีประวัติการฉ้อโกง อย่างน้อย 6 เคส มูลค่าความเสียหายตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้เป็นแค่ข้อมูลที่ได้รับการแจ้งความ