สำนักข่าว mirror นำเสนอเรื่องราวของ Jessica Valoy หญิงชาวสหรัฐอเมริกาวัย 30 ปี เคยหนักเกือบ 140 กิโลกรัม เสียเงินมากถึง 8 หมื่นปอนด์ หรือประมาณ 3.5 ล้านบาท ในการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก จนน้ำหนักตัวลงไปได้มากถึง 53 กิโลกรัม แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกเกลียดรูปร่างของตัวเอง
สาวเจ้าเนื้อจากเมืองซีแอตเทิลเปิดเผยว่า สาเหตุที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานเป็นผลกระทบมาจากการไดเอทด้วยวิธีอดอาหารสมัยเป็นวัยรุ่น กระทั่งตัดสินใจผ่าตัดลดขนาดกระเพาะในปี 2014 แต่หลังจากนั้นกลับมีอาการกรดไหลย้อน จนเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2016 หลังแต่งงานได้เพียง 3 สัปดาห์ ก็เข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอีกครั้งเพื่อแก้ไขภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดครั้งแรก
ภายหลังการผ่าตัดเธอค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา เพราะน้ำหนักตัวหายไปถึง 53 กิโลกรัม แต่ผลจากการสูญเสียน้ำหนักจำนวนมากภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น โดยเฉพาะ หน้าท้อง แขน และขา สร้างความอับอายและความไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง จนถึงขั้นคิดว่าร่างกายของตัวเองน่าเกลียดเหมือนกับสุนัขชาเป่ย ทั้งยังรู้สึกว่ามันแย่ยิ่งกว่าตอนยังไม่ได้ผ่าตัดเสียอีก
หญิงสาวเปิดเผยว่า เธอไปยิมทุกวันแต่กลับมองไม่เห็นกล้ามเนื้อที่พยายามจะสร้างเพราะเนื้อส่วนเกินย้อยลงมาปิด ซึ่งหากจะศัลยกรรมตกแต่งผิวหนังส่วนเกินพวกนี้ เธอจะต้องใช้เงินอีกเป็นล้านซึ่งประกันไม่ให้ความคุ้มครอง
โชคดีที่สามีให้การสนับสนุนเธอในทุกทาง ยืนยันว่ารักในสิ่งที่เธอเป็น และเขาจะมีความสุขถ้าเธอไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดอีก ที่ผ่านมาเธอทำงานหนักเพื่อหาเงินมารักษาตัวและไม่ต้องการจะรบกวนใคร แต่ล่าสุดสามีตัดสินใจเปิดระดมเงินผ่านเว็บไซต์ดัง GoFundMe ทำให้เรื่องราวของเธอได้รับความสนใจ ซึ่งเธอก็ได้แต่หวังว่าอย่างน้อยๆ เรื่องราวของตัวเองน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน