แม่คาใจ ลูกสาวเสริมหน้าอก 6 ชม. ดับ คลินิกโป๊ะแตก ไม่มีใบอนุญาตผ่าตัด !

จากกรณีสาวเสริมอึ๋ม 6 ชม. ดับ โดยคลีนิกให้กลับบ้านตั้งแต่ผ่าเสร็จ ทำเลือดออกในช่องอก เป็นเหตุให้เสียชีวิต สืบทราบภายหลังคลีนิกไม่มีใบอนุญาต ! 

 

 

            วันที่ 29 มี.ค. 66 จตุพร หาหอม (โบว์) น้องสาวของผู้เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า พี่สาวทำงานอยู่ต่างประเทศ เพิ่งเดินทางกลับมาประเทศไทยวันที่ 20 มี.ค. 66 และได้จัดการจองคิวเพื่อศัลยกรรมหน้าอกวันที่ 23 มี.ค. 66 โดยพี่สาวเป็นคนจัดแจงเองทั้งหมด ตนไม่รู้เรื่อง ภายหลังตนมาทราบว่าพี่สาวได้รับคิวผ่าตัดตอนช่วง 21.00 น. และผ่าตัดเสร็จประมาณเกือบ 23.00 น. จากนั้น 00.00 น. ก็กลับบ้านเลย 

 

  

 

            ต่อมา เวลา 04.30 น. พี่สาวมีอาการชักเกร็ง ตนพยายามเรียกไม่ให้เขาหมดสติ แต่เขาก็หมดสติไป ขณะเดียวกันกางเกงของพี่สาวก็เปียก เพราะมีอุจจาระปัสสาวะไหลออกมา และยังมีเลือดไหลออกจากรูจมูกด้วย ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงก็จบว่าพี่สาวมีชีพจรอ่อนมาก กู้ภัยพยายามจะช่วยปั๊มหัวใจ แต่พี่สาวเพิ่งทำหน้าอกมา ทำให้ไม่สามารถปั๊มหัวใจได้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตอนนี้ครอบครัวยังคาใจว่าคลินิกจะออกมารับผิดชอบไหม เพราะว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากคลีนิกเลย 

 

 

            ด้าน เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เผยว่า การกระทำของคลีนิกในเคสนี้เป็นการประมาทเลินเล่อ ทั้งในด้านของห้องผ่าตัดใหญ่มันต้องได้รับการอนุญาต แต่คลีนิกไม่ได้มีการขออนุญาต ขณะเดียวกันการที่ผ่าตัดใหญ่เสร็จแล้วให้ผู้ป่วยกลับบ้านเลย ข้อนี้ก็ร้ายแรง เพราะหลังผ่าตัดผู้ป่วยต้องรักษาติดตามอาการก่อนถึงจะกลับบ้านได้ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ และที่สำคัญเลยคือเรื่องของ วิสัญญีแพทย์ ที่คลีนิกนี้ไม่มี ก็จะขาดคนที่คอยวิเคราะห์ตรวจสอบร่างกายคนไข้ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด อย่างไรก็ตามตนพร้อมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้คนแพทย์ผู้กระทำผิดติดคุก 10 ปี รวมถึงเรียกร้องค่าเสียหายด้วย โดยแม่ผู้เสียชีวิตขอเรียกเงินค่าเสียหาย 10,000,000 ล้านบาท ที่ต้องเรียกเยอะ เพราะมีผู้ไร้ผู้อุปการะเยอะ ทั้งตัวคุณแม่ผู้เสียชีวิต และผู้เสียชีวิตเองก็มีลูก 2 คน 

 

            ฟาก นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการตรวจสอบ เคสนี้เราไม่พบ วิสัญญีแพทย์ หรือทีมผู้ช่วยที่ได้มาตรฐาน ที่สำคัญเลยคือ ตามปกติแล้วการผ่าตัดเสริมหน้าอก จะต้องมีระยะเวลาพัก และสังเกตุอาการคนไข้ 6-10 ชั่วโมง ซึ่งบางรายอาจจะแนะนำให้พัก 1 วันเลยทีเดียว สรุปได้ว่าควรให้คนไข้พักจนอยู่ในระยะปลอดภัยถึงจะกลับบ้านได้ ซึ่งคลีนิกดังกล่าวให้คนไข้กลับบ้านเลยนั้นผิดจากมาตรฐานเอามาก ๆ นอกจากนี้การผ่าตัดในลักษณะนี้ค่อนข้างอันตราย ต้องใช้ห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ แต่ที่คลีนิกดังกล่าวไม่มี 

 

            ส่วนประเด็นที่ผู้เสียชีวิตมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง แต่คลีนิกให้ผ่าตัดได้นั้น ตามปกติแล้วเคสแบบนี้ผ่าได้ แต่มีเงื่อนไขต้องเตรียมคนไข้ให้ดี เช่น รักษาระดับน้ำตาล ติดตามอาการไม่ให้คนไข้มีสภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งในคลีนิกนี้ไม่ได้มีการเตรียมคนไข้ที่ดี ทั้งนี้เราพบความผิดปกติทั้งหมด ทั้งก่อนผ่าตัด ขณะผ่าตัด และหลังผ่าตัด 

 

 

            กระทรวงสาธารณสุขเราจะดำเนินการคู้ขนานไปตามกระบวนการกฎหมายอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันด้านจริยธรรม เราจะส่งแพทย์ผู้ผ่าตัดส่งต่อให้แพทยสภาเป็นคนตัดสิน ซึ่งก็จะมีโทษทางกฎหมายอีกฉบับหนึ่ง ทั้งนี้ทางกระทรวงฯ หากญาติผู้เสียชีวิตติดใจอะไร ให้ติดต่อมาทางกระทรวงได้เลย อย่างไรก็ตาม ตนขอเตือนพี่น้องประชาชนที่จะเข้ารับการผ่าตัดดังกล่าว หรือเสริมความงามต่าง ๆ ว่ามันมีความเสี่ยง เพราะในปัจจุบันมีพวกลักลอบทำผิดมาตรฐานที่เรากำหนดไว้ และให้ตรวจสอบคุณหมอให้ดี ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ รวมถึงวิสัญญีแพทย์ รวมถึงสถานที่ด้วย