สั่งจำคุก 'โจชัว หว่อง' พร้อมแกนนำอีกสองคน หลังนำการประท้วงปฏิวัติร่มในฮ่องกงเมื่อปี 2014
logo ข่าวอัพเดท

สั่งจำคุก 'โจชัว หว่อง' พร้อมแกนนำอีกสองคน หลังนำการประท้วงปฏิวัติร่มในฮ่องกงเมื่อปี 2014

ข่าวอัพเดท : ศาลฮ่องกงตัดสินจำคุกโจชัว หว่อง พร้อมอีก 2 อดีตแกนนำ จากข้อหานำการชุมนุมที่ถูกเรียกว่า การปฏิวัติร่ม ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 ซึ่งนั ฮ่องกง,ปฏิวัติร่ม,โจชัว หว่อง

3,191 ครั้ง
|
17 ส.ค. 2560
 
ศาลฮ่องกงตัดสินจำคุกโจชัว หว่อง พร้อมอีก 2 อดีตแกนนำ จากข้อหานำการชุมนุมที่ถูกเรียกว่า "การปฏิวัติร่ม" ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 ซึ่งนับเป็นการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในฮ่องกง
 
การตัดสินครั้งนี้เป็นการตัดสินอุทธรณ์คำสั่งลงโทษเดิม ที่ให้แกนนำการชุมนุมทั้งสามคนต้องบริการสังคมจากข้อหานำการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย และทั้งสามคนได้ใช้โทษนั้นครบแล้ว แต่กระทรวงยุติธรรมฮ่องกงอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าวโดยเห็นว่าโทษนั้นเบาเกินไป
 
จากคำตัดสินอุทธรณ์นี้ นายหว่องวัย 20 ปี จะถูกตัดสินให้จำคุก 8 เดือน ซึ่งเมื่อหักโทษที่ชดใช้ด้วยการบริการสังคมไปแล้ว เขาจะเหลือเวลาถูกจำคุก 6 เดือน ส่วนแกนนำอีกสองคน ประกอบด้วยนาธาน ลอว์ วัย 24 ปี ถูกตัดสินจำคุก 10 เดือน หักโทษที่ชดใช้ด้วยการบริการสังคมแล้วเหลือจำคุก 8 เดือน และนายอเล็กซ์ โชว์ วัย 26 ปี ถูกตัดสินจำคุก 8 เดือน หักโทษที่ชดใช้ด้วยการบริการสังคมแล้วเหลือจำคุก 7 เดือน
 
สำนักข่าว CNN รายงานว่าหลังศาลอ่านคำพิพากษาจบ ห้องพิจารณาคดีก็ตกอยู่ในความเงียบ จนกระทั่งผู้พิพากษาประกาศจบการอ่านคำพิพากษา และผู้สนับสนุนแกนนำการชุมนุมทั้งสามคนต่างตะโกนออกมาว่านี่เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองและเป็นเรื่องขี้ขลาด
 
นายโจนาธาน แมน ทนายความของนายลอว์และนายโชว์บอกว่า เขาไม่แปลกใจกับคำพิพากษา แต่นับว่าคำพิพากษาในครั้งนี้รุนแรงมาก โดยโทษจำคุกที่ทั้งสามได้รับแสดงถึงการลงโทษที่รุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน
 
หลังคำตัดสิน นายหว่องทวีตข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ทันที โดยระบุว่า "สามารถล็อกร่างกายเราไว้ได้ แต่ไม่สามารถล็อกจิตใจของเราได้", "พวกเขาสามารถทำให้การประท้วงเงียบลงได้ เอาพวกเราออกจากสภานิติบัญญัติ แล้วก็ล็อกตัวพวกเราได้ แต่เขาจะไม่สามารถชนะหัวใจและความคิดของชาวฮ่องกงได้"
 
ด้านโซฟี ริชาร์ดสัน ผู้อำนวยการองค์กรสิทธิมนุษยชน Human Right Watch ของจีนระบุว่าคำพิพากษาดังกล่าวเป็น "การฟ้องร้องทางการเมืองที่ถูกคิดคำนวณมาแล้วอย่างโจ่งแจ้ง"
 
การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง หรือที่เรียกว่าปฏิวัติร่มนั้น เกิดขึ้นในปี 2557 ซึ่งแกนนำทั้งสามคนมีบทบาทในการปลุกระดมมวลชนหลายแสนคน เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยตามแบบที่อังกฤษที่เคยปกครองฮ่องกงมาก่อน หลังจากในขณะนั้นมีการลงมติเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งผู้ว่าการเกาะฮ่องกงใหม่ โดยไม่มีการเสนอชื่อให้ประชาชนเลือกโดยตรงอีกต่อไป แต่จะมีคณะกรรมการคัดกรองผู้สมัครรับเลือกตั้งให้เหลือเพียง 2-3 คนก่อนที่จะให้ชาวฮ่องกงได้เลือก ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงมองว่าเป็นความพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งของฮ่องกงอย่างชัดเจน การชุมนุมยืดเยื้อราวสามเดือนและมีการปะทะระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่รัฐ และสุดท้ายตำรวจฮ่องกงก็เข้าสลายการชุมนุมในที่สุด