ผู้ใช้เฟสบุ๊กซึ่งเป็นหญิงชาวออสเตรเลียรายหนึ่ง โพสต์ภาพน้ำยาล้างคอนแทกเลนส์ยี่ห้อดังพร้อมข้อความระบุว่า แม่ของเธอเกือบตาบอด ซึ่งเธออ้างว่าเกิดจากการใช้คอนแทคเลนส์ดังกล่าว โดยมีผู้แชร์โพสต์นี้ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศแล้วกว่า 40,000 ครั้ง
เธอระบุว่าแม่ของเธอใส่คอนแทคเลนส์มา 17 ปี และใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์แบบเดิมมาตลอด เหตุเกิดเมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้วที่แม่ของเธอซื้อน้ำยาเดียวกันนี้แบบแพ็คสามขวด ซึ่งระบุเลขล็อตการผลิต และระบุวันหมดอายุในเดือนพฤศจิกายนปี 2561 และเปิดใช้ในวันอาทิตย์ เธอยืนยันว่าแม่ของเธอใช้น้ำยาอย่างถูกต้องตามข้อบ่งใช้
แต่ในวันถัดมานั้นเอง แม่ของเธอก็มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง ไม่สามารถเปิดตาและมองเห็นได้ ซึ่งทำให้แม่ของเธอไม่พอใจอย่างยิ่ง แม่ของเธอถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และถูกวินิจฉัยว่าเกิดอาการกระจกตาอักเสบ (Keratitis) ซึ่งอาจสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
เธอเล่าต่อว่าแม่ของเธอได้รับยาแก้ปวดขนานใหญ่ มีการใช้ยาหยอดตาและยาปฏิชีวนะเพื่อรักษา และต่อมาเธอได้ค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต พบว่าผู้ผลิตน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ดังกล่าวเคยเรียกคืนผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคอนแทคเลนส์จากผู้ใช้เนื่องจากก่อให้เกิดอาการกระจกตาอักเสบมาแล้วก่อนหน้านี้
อาการล่าสุดของแม่เธอหลังกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน เธอระบุว่าแม่ของเธอนอนบนเตียง ปวดตาและไม่สามารถเปิดตาได้ และเมื่อพยายามจะเปิดตาก็จะเห็นเพียงแสง แต่ไม่สามารถมองเห็นวัตถุใดๆ ซึ่งอาการนี้จะทุเลาเมื่อได้รับยาแก้ปวด แต่เมื่อยาหมดฤทธิ์ก็จะกลับมามีอาการอีกครั้ง แม่ของเธอยังไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เช่น ไม่สามารถอาบน้ำ ทำอาหาร ดูโทรทัศน์หรืออ่านข้อความใดๆ ได้
เธอเชื่อว่าบริษัทผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวมีปัญหาในกระบวนการควบคุมคุณภาพ และมีปัญหาในการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของลูกค้าที่ประเทศออสเตรเลียบัญญัติไว้
ล่าสุด บริษัทผู้ผลิตได้นำผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหา พร้อมทั้งนำอาการของแม่ของเธอเข้าสู่กระบวนการสอบสวนแล้ว และแม้ว่าบริษัทผู้ผลิตจะยังไม่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีปัญหา แต่เธอก็เตือนให้เพื่อนในเฟสบุ๊กของเธอหลีกเลี่ยงการใช้สินค้านี้ไปก่อน
ขณะนี้ยังไม่มีการแถลงใดๆ อย่างเป็นทางการจากผู้ผลิตสินค้าดังกล่าว
อีกด้านหนึ่งมีคำอธิบายจากศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงสกาวรัตน์ คุณาวิศรุต บนเว็บไซต์หาหมอดอทคอม เกี่ยวกับอาการกระจกตาอักเสบว่าเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งแบคทีเรียที่ก่อโรค ไวรัสเริม เชื้อรา แต่ที่พบได้ในผู้ใช้คอนแทคเลนส์คือปรสิตชนิด "อะแคนอะมีบา" ซึ่งปัจจัยเสี่ยงคือความผิดปกติของตา การทำงานสิ่งแวดล้อมที่สกปรก มีฝุ่น หรือเสี่ยงอันตรายต่อตา ผงเข้าตา แมลงเข้าตา ภูมิคุ้มกันโรคผิดปกติ หรือการใส่คอนแทคเลนส์นานๆ ใส่คอนแทคเลนส์ที่สกปรก หรือการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคบนคอนแทคเลนส์ไม่สมบูรณ์ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงได้เช่นกัน
ซึ่งการรักษาโรคนี้เน้นการให้ยาหยอดตาที่เป็นยาปฏิชีวนะ ยาลดการเพ่งของตา ยาแก้ปวด และถ้าหากอาการรุนแรงอาจต้องมีการผ่าตัดกระจกตาร่วมด้วย หากพบว่ามีแผลบนกระจกตา ร่วมกับตาแดงจากหลอดเลือดรอบตาดำหรือกระจกตาขยายตัว หรือมีอาการเจ็บตาร่วมกับมีจุดขาวกลางตาดำ/กระจกตา ควรไปพบจักษุแพทย์หรือไปโรงพยาบาลทันที ไม่ควรซื้อยาใช้เองเพราะอาจไม่เข้ากับโรค และยาที่มีสเตียรอยด์ผสมอาจทำให้อาการทรุดลงอีก ควรใช้โล่บังหน้าหรือแว่นนิรภัยเมื่อต้องทำงานที่เสี่ยงกับอุบัติเหตุต่อดวงตา แก้ไขภาวะเสี่ยงต่อตา เช่น ขนตาแยง หรือตาแห้ง ตลอดจนใช้คอนแทคเลนส์อย่างถูกวิธี และดูแลความสะอาดของคอนแทคเลนส์อย่างเคร่งครัด เป็นต้น
+ อ่านเพิ่มเติม