เมื่อเวลา 18.30 น. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ หรือดีเอสไอ และนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ร่วมแถลงคืบหน้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ที่ตำรวจตะเวนชายแดน ภาค1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า ในการตรวจค้นวัดพระธรรมกายนั้น ยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่อยากให้มีการปะทะจนเกิดความรุนแรง โดยที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่มีการเจรจากับทางวัดพระธรรมกายและศิษย์ของวัดธรรมกายมาโดยตลอด เพื่อให้ออกจากพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจค้นยังโซน a และโซน b แต่เนื่องจากทางพระและศิษย์วัดพระธรรมกายไม่เข้าใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจาทำความเข้าใจมาโดยตลอด ขณะที่มาตรการของเจ้าหน้าที่มีจากเบาไปหาหนัก แต่ละขั้นตอนของรายละเอียดนั้นยังไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน ขณะนี้เราก็ยังไม่ให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าพื้นที่ภายในวัดอย่างจริงจัง พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้ความรุนแรง เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจโดยใช้ระยะเวลาตามกฎหมาย
"ซึ่งถ้าหากทางวัดพระธรรมกาย ให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจค้นโซน a และโซน b อย่างครบถ้วนและตามจุดที่ต้องการแล้ว เมื่อไม่พบบุคคลตามหมายจับ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะถอนกำลังออกไปทันที แล้วจะนำเสนอ คสช. เพื่อยกยกเลิกมาตรา 44 ฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนทุกท่าน อย่าเข้ามายังพื้นที่ควบคุมพิเศษ มาตรา 44 วัดพระธรรมกายและบริเวณวัดพระธรรมกาย ถึงแม้คดีจะเสร็จสิ้นแล้ว ท่านก็ยังมีคดีอยู่ พี่น้องประชาชนต้องเข้าใจในเรื่องของกฎหมายด้วย" พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ กล่าวว่า ทางคณะศิษย์วัดธรรมกายเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 44 ทั้งนี้ขอชี้แจงว่า ก่อนที่จะมีมาตรา 44 มีกฎหมายธรรมดาก็ถูกทางวัดพระธรรมกายและศิษย์วัดพระธรรมกายต่อต้าน ในการตรวจค้นวัดโดยการนำสิ่งกีดขวางมาติดตั้ง และดำเนินการทุกวิถีทางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นตามกฎหมาย ในวันนี้มีมาตรา 44 ทางพระและศิษย์วัดพระธรรมกายก็ยังบอกว่าไม่ถูกต้องอีก จึงอยากเรียนไปยังประชาชนทุกท่านให้เข้าใจว่า กฎหมายมาตรา 44 ที่ออกมา ควบคุมพื้นที่พิเศษ ของวัดพระธรรมกายและบริเวณวัดพระธรรมกายนั้น หวังว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จะสามารถปฏิบัติการและดำเนินการได้มากกว่าการดำเนินการแบบปกติ เนื่องจากพื้นที่ของวัดพระธรรมกายนั้น มีขนาดที่กว้างขวาง ในการดำเนินการภายในหนึ่งวันนั้นเป็นไปได้ยาก การจับบุคคลในหมายจับในพื้นที่กว้างจึงต้องใช้เวลามากและใช้คนเยอะ จึงต้องมีขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบขึ้นมารองรับมากกว่ามาตรการปกติ ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามดำเนินการอย่างละมุนละม่อมไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งประชาชนควรรับฟังอย่างมีเหตุมีผล และไม่เข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้นหลังจากจบเรื่องราวแล้ว ตามคำสั่งนี้ให้ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วน นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ในส่วนที่ตนเองเป็นหัวหน้าพนักงานฝ่ายปกครองในพื้นที่ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงต้องปฏิบัติตามคำสั่งตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะต้องสนับสนุนการปฏิบัติการของดีเอสไอ ทั้งนี้ผู้นำชุมชนต้องมีหน้าที่ทำความเข้าใจกับลูกบ้านหรือประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการทำความเข้าใจกับคนจะต้องใช้เวลา ความอดทนเท่านั้นจะทำให้เราทำงานได้สำเร็จอย่างสันติและโดยละมุนละม่อม ต้องเน้นและชี้แจงให้ประชาชนที่เข้ามาในพื้นที่ควบคุมพิเศษมาตรา 44 ซึ่งการถือว่าเข้ามาในพื้นที่เป็นการทำผิดกฎหมาย แม้ว่าเรื่องราวจะจบไปแล้ว หลังจากนี้ก็จะได้รับความผิดตามมาทีหลัง ก็ขอให้ประชาชนอย่าได้เข้ามาในพื้นที่ควบคุมพิเศษมาตรา 44 อีกเลย ซึ่งไม่ได้หมายถึงภายในวัดอย่างเดียวแต่ยังหมายถึงพื้นที่บริเวณโดยรอบวัด
+ อ่านเพิ่มเติม