ดีเอสไอมอง บอร์ดคดีพิเศษเข้าข่ายผิดกฎหมาย ปมฮั้วเลือก สว. | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - วันนี้ ต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ เพราะมีวาระพิจารณาว่า จะรับคดีฮั้วการเลือกตั้ง สว. เป็นคดีพิเศษหรือไม่ หลังจากดีเอสไอมองว่า คดีนี้เข้าข่ายความผิดกฎหมาย สว. ความผิดฐานอั้งยี่ และความผิดฐานฟอกเงิน

 

บอร์ดคดีพิเศษถกปมฮั้วเลือก สว.

 

เวลา 13.30 น. ที่ผ่านมา ที่กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นัดประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับหน่วยงานด้านความมั่นคง เป็นประธานกรรมการ เพื่อพิจารณาว่า จะรับคดีฮั้วการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยในที่ประชุมวันนี้ มีกรรมการมาประชุมทั้งหมด 19 คน จาก 22 คน โดยขาดกรรมการโดยตำแหน่ง 1 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 คน ซึ่งการจะให้คดีเป็นคดีพิเศษ ต้องได้รับเสียง 2 ใน 3 คือ 15 คน

 

คดีนี้ เกิดจาก เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2567 มีผู้ร้อง 3 ราย ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบการฮั้วเลือก สว. จากการสืบสวนของดีเอสไอพบว่า มีขบวนการจัดตั้งเครือข่ายเพื่อให้ได้มาซึ่ง สว. บางกรณีพบว่ามีการจ่ายค่าตอบแทนระดับอำเภอ 5,000 บาท ระดับจังหวัด 10,000 บาท และระดับประเทศ 40,000-100,000 บาท หากได้รับเลือกมากกว่า 120 คน จะได้รับเพิ่ม 100,000 บาท และดีเอสไอพบโพยฮั้ว 2 ชุด มีรายชื่อตรงกับผู้ได้รับเลือกเป็น สว. ถึง 138 คน จาก 140 คน และอีก 2 คน เป็นรายชื่อสำรอง

 

จากนั้นดีเอสไอได้ทำหนังสือแจ้ง กกต. แต่ กกต. ตอบกลับว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณารับเรื่องไว้หรือไม่ จึงยังไม่ได้เสนอเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา

 

ภูมิธรรม ลั่นไม่เกี่ยวการเมือง-ดูตามเนื้อผ้า

 

ช่วงแรกของการประชุม นายภูมิธรรมกล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง หากมีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ให้เห็นว่ามีปัญหา ก็จะนำเข้าสู่กระบวนการรับเป็นคดีพิเศษเพื่อดำเนินการต่อไป หากไม่ใช่ ไม่ชัด ก็จะพิจารณาไปตามเนื้อผ้า ยืนยันว่าตนไม่มีปัญหาหรือข้อขัดข้อง แต่เรื่องนี้มีผลกระทบต่อสถาบันหลักของประเทศ จึงไม่อยากให้ใช้อารมณ์ความรู้สึกมาเป็นตัวกำหนด หรือตัวตัดสิน พิจารณาไปตามเนื้อผ้า โดยเหตุผลที่ยอมให้บรรจุเป็นวาระในการพิจารณาครั้งนี้ เพราะเป็นเรื่องที่มีพยานหลักฐาน จึงต้องแสดงให้ทุกคนที่เป็นกรรมการได้รู้ หากเห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดก็จะพิจารณาไปตามความเหมาะสม โดยจะขอให้นำวาระคดีการเลือก สว. มาพิจารณาเป็นวาระแรก

 

หลังจากที่มีการประชุมตั้งแต่ 13.30 น. ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมบอร์ดคดีพิเศษได้เสนอให้เลื่อนการลงมติรับไม่รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ โดยจะมีการเชิญ กกต. มาชี้แจง แล้วจะกำหนดวันนัดประชุมใหม่อีกครั้ง

 

นายกฯ ลั่นพรรคร่วมฯ ไม่มีรอยร้าว

 

ทำให้หลังการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมการแถลง พร้อมกล่าวกับสื่อมวลชนว่า ต้องรีบกวักมือเชิญ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มายืนด้วย เดี๋ยวจะหาว่ามีรอยร้าวในพรรคร่วม และไม่อยากให้เกิดข่าวลือไปเรื่อย พร้อมระบุว่า เรื่องพรรคร่วมฯ ไม่เห็นด้วยถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะแม้แต่ในพรรคกันเอง ยังไม่เห็นด้วยกัน 100 

 

นายกฯ ยอมรับว่ามีบางเรื่องที่ไม่เห็นด้วยจริง ไม่ได้บอกว่าทุกเรื่องโอเค แต่ต้องมาคุยกัน และบางเรื่องต้องคุยกันแบบส่วนตัวจะได้ผลดีและทำงานราบรื่นกว่า

 

ช่วงหนึ่งนางสาวแพทองธารหันไปถามนายอนุทินว่า รองนายกฯ มีรอยร้าวหรือไม่ ทำให้นายอนุทินยิ้มและตอบทันทีว่า ไม่กล้า ก่อนที่นายกฯ จะบอกว่า เรื่องที่เห็นต่างต้องคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ แม่กับลูก หรือสามีภรรยา ก็ยังทะเลาะกัน ดังนั้นการเห็นไม่เหมือนกันจึงเป็นเรื่องปกติ พร้อมมั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม

 

นายกฯ บอกว่า ในช่วงเย็นวันนี้จะได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่แค่ตนกับพรรคภูมิใจไทย ยังมีพรรคอื่นที่ต้องเคลียร์หลายเรื่อง เพราะจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงต้องคุยกัน

 

เฉลิมชัย จ่อเชิญ พีต้า ดูหมูเด้ง

 

ส่วนกรณีดรามา องค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าชื่อดังข้ามชาติ PETA และ Born Free รณรงค์นักท่องเที่ยวอังกฤษไม่ให้เดินทางเข้ามาเที่ยวสวนสัตว์ต่าง ๆ และสวนสัตว์เปิดเขาเขียวของไทย และระบุว่าสวนสัตว์เขาเขียวไม่ได้มาตรฐาน ใช้ประโยชน์แสวงหาผลกำไร รวมทั้งทวิตกว่ากระแสความโด่งดังของหมูเด้งจะเป็นภัยต่อสวัสดิภาพความเป็นอยู่ในฐานะสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์

 

ล่าสุดวันนี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงยืนยันว่า สวนสัตว์ให้การดูแลสัตว์ป่าเป็นอย่างดีทุกประการ ทั้งสวัสดิการ ที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อม และสุขภาพของสัตว์ โดยเฉพาะแม่ของหมูเด้งที่มีลูกมาแล้วถึง 7 ตัว จึงขอเรียกร้องให้พีต้ามาดูข้อเท็จจริง ฮิปโปแคระแม้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ก็จริง แต่ประเทศไทยก็เพาะพันธุ์ได้มาก พร้อมย้ำอีกครั้งว่า สวนสัตว์ของประเทศไทยดูแลสัตว์ถูกสุขลักษณะ และมีการพัฒนาปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา