อัยการพิเศษฝ่ายสอบสวน 3 ขอพระธัมมชโย เข้ามอบตัวสู้คดีในกระบวนการยุติธรรม เพื่อความชัดเจนในความบริสุทธิ์ พร้อมยืนยันหากเข้ามอบตัวยังสามารถประกันตัวได้โดยจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล แต่หากไม่เข้ามอบตัว คาดว่าดีเสไอจะมีการร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหมายจับ 2 หมายในข้อหาบุกรุกที่ดินป่าสงวน
นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายสอบสวน 3 ระบุถึงการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ว่า ภายหลังพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งให้ฟ้องก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอในการติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล ภายในอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่เริ่มกระทำความผิดในแต่ละกรรม ซึ่งหากพระธัมมชโยต้องการเข้ามอบตัวก็สามารถทำได้ จากนั้นจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ แต่ส่วนตัวอยากขอให้พระธัมมชโยเข้ามอบตัวและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อพระธัมมชโยในแง่ของการสู้คดีมากกว่า และยังสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ส่วนกรณีที่ตำรวจเตรียมจับกุมพระธัมมชโย ตามหมายจับในคดีก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม 2 แห่ง บุกรุกที่ดินป่าสงวนในอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย และที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมานั้น คาดว่าจะมีการประสานความร่วมมือกับดีเอสไอ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ต้องการนำตัวมาดำเนินคดีเหมือนกัน แต่ทั้งนี้หากจะต้องมีการเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ต้องขอหมายค้น และวางแผนอย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่สามารถใช้ยุทธวิธีแบบเดิมได้ และต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรง หลีกเลี่ยงการปะทะกับมวลชน ขณะที่ข้อสงสัยว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดพระธรรมกายหรือไม่นั้น นายขจรศักดิ์ระบุว่า จากการสอบปากคำพยานบุคคล ผู้ใกล้ชิดพระธัมมชโย ยืนยันว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัด แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าเป็นไปตามคำให้การของพยานหรือไม่
ด้านพันตำรวจโทปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยว่าทางดีเอสไอเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาหากพระธัมมชโยต้องการเข้ามอบตัว เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลคดีนี้อยู่แล้ว ส่วนจะเข้าไปตรวจค้นในวัดอีกครั้งหรือไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้บัญชาการ ซึ่งในวันนี้ยังไม่มีการประชุมหารือกับพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตามที่เป็นข่าว
+ อ่านเพิ่มเติม