น๊อต อัครณัฐ พบตร.ให้ปากคำเพิ่มเติม ขอโอกาสกลับตัว
logo ข่าวอัพเดท

น๊อต อัครณัฐ พบตร.ให้ปากคำเพิ่มเติม ขอโอกาสกลับตัว

ข่าวอัพเดท : นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือ น๊อต อดีตพิธีกร และนักแสดงวัยรุ่น ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีการดำเนินการทางคด น๊อต,น็อต,อัครณัฐ,ขอโอกาส,กราบรถกู

8,033 ครั้ง
|
14 พ.ย. 2559
นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือ น๊อต อดีตพิธีกร และนักแสดงวัยรุ่น ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีการดำเนินการทางคดีกับ นายเกียรติศักดิ์ หรือบอย สิงโต คู่กรณีที่ก่อเหตุเฉี่ยวชนท้ายรถยนต์ มินิคูเปอร์ ของนายอัครณัฐ จนได้รับความเสียหาย จนทำให้นายอัครณัฐ เกิดบันดาลโทสะ ลงมือทำร้ายร่างกายนายกิตติศักดิ์ จนได้รับบาดเจ็บ และมีผู้สามารถบันทึกคลิปเหตุการณ์จนมีการแชร์กันอย่างมากมายและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของการกระทำดังกล่าว ล่าสุดในวันนี้นายอัครณัฐ ได้ยืนยันอีกครั้ง ว่าตนเองไม่ได้แจ้งความเอาผิดกับ นายกิตติศักดิ์ ในข้อหาชนแล้วหนี แต่ที่ผ่านมาเป็นการเข้าให้ปากคำในคดี ส่วนคดีจะดำเนินการอย่างไร ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ และส่วนตัวขออโหสิกรรม ขอโอกาสกลับตัว และขอดูแลรับผิดชอบคู่กรณีทุกกรณี และขอขอบคุณทุกคำตำหนิจากทุกคนที่ให้ตน ขอเวลากลับตัวและเตรียมตัวหันหน้าปฏิบัติธรรมเพื่อทำให้จิตใจสงบ 
 
ขณะที่ด้าน พันตำรวจโททวีป สุทธิ รองผู้กำกับการ สน.ยานนาวา ฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ในคดีนี้ ระบุว่า ในขณะนี้การดำเนินการของพนักงานสอบสวน แบ่งเป็น 2 คดี คือคดีแรก ที่นายอัครณัฐ แจ้งความเอาผิด นายกิตติศักดิ์ ในข้อหาชนแล้วหนี และคดีที่สอง คือที่นายกิตติศักดิ์ แจ้งความกลับนายอัครณัฐ ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย และบังคับข่มขืนใจผู้อื่นทำให้เสียอิสระภาพ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อหาทั้งสองต่อนายอัครณัฐแล้ว แต่ขณะนี้ ตัวนายอัครณัฐ ยังให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งสอง ส่วนข้อหาแรกที่จะมีการเปลี่ยนข้อหาเป็น ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีโทษที่สูงกว่านั้น ขณะนี้ต้องรอผลการรักษาตัวของนายกิตติศักดิ์ อย่างเป็นทางการจากทางแพทย์ก่อน ซึ่งเบื้องต้นทราบว่านายกิตติศักดิ์ ต้องพักรักษาตัวนาน 30 วัน ซึ่งเข้าข่ายในข้อกล่าวหานี้ แต่พนักงานสอบสวนต้องได้รับผลการรักษาตัวอย่างเป็นทางการ จากทางแพทย์ก่อนจึงจะนำมาประกอบสำนวนและเปลี่ยนข้อกล่าวหา และในส่วนที่นายอัครณัฐ จะมีการถอนแจ้งความกับนายกิตติศักดิ์ ในข้อหาชนแล้วหนี ก็สามารถทำได้ แต่พนักงานสอบสวน ก็ยังคงต้องดำเนินคดีต่อ เพราะถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ส่วนพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งฟ้องหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ 
 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง