ปส.จ่อออกหมายเรียก 'ไผ่ วันพ้อยท์' หากไม่มาให้ปากคำภายในวันนี้
logo ข่าวอัพเดท

ปส.จ่อออกหมายเรียก 'ไผ่ วันพ้อยท์' หากไม่มาให้ปากคำภายในวันนี้

ข่าวอัพเดท : ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เตรียมออกหมายเรียกไผ่ วันพ้อยท์ หากวันนี้ไม่มีการติดต่อกลับมา/ หลังนายบอย เครือข่ายยาเสพติดไซซะนะ อ้างว่าเป็นผ ปส,ไผ่,วันพ้อยท์,ไซซะนะ,ปากคำ,ตำรวจ

52,620 ครั้ง
|
07 ก.พ. 2560
ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เตรียมออกหมายเรียกไผ่ วันพ้อยท์ หากวันนี้ไม่มีการติดต่อกลับมา หลังนายบอย เครือข่ายยาเสพติดไซซะนะ อ้างว่าเป็นผู้แนะนำให้ซื้อลัมโบกินี
 
หลังจากวานนี้ (6 ก.พ.60 ) ที่ประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างตำรวจปราบปรามยาเสพติด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ป.ส. และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. ได้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ และร่วมกันพิจารณาเตรียมออกหมายเรียกบุคคลที่ต้องสงสัย 3 คน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พลตำรวจตรีชาตรี ไพศาลศิลป์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า หนึ่งในผู้ที่ถูกออกหมายเรียก คือ นายไผ่ ลิกค์ หรือ ไผ่ วันพ้อยท์ เป็นบุคคลที่นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย เครือข่ายค้ายาเสพติดของนายไซซะนะ อ้างถึงว่าเป็นคนแนะนำให้ตนเองไปซื้อรถลัมโบกินี รุ่นกัลดาโด สีเทาดำ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าพนักงานสอบสวนได้ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ไปยังคนใกล้ชิดแล้ว แต่ผู้ที่ประสานงานได้ระบุว่ายังไม่สามารถติดต่อกับเจ้าตัวได้ เช่นเดียวกับเจ้าของเต๊นท์รถซุปเปอร์คาร์ มือสอง ที่เป็นผู้ขายรถลัมโบกินี รุ่นกัลดาโด สีเทาดำ ให้นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์เรซซิ่ง เพื่อสอบถามข้อมูลการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้น รวมถึงเอกสารที่ระบุที่มาที่ไปของรถคันดังกล่าว ว่าใครเป็นคนที่ซื้อรถ เนื่องจากนายบอย ได้ให้ปากคำว่าเป็นผู้ซื้อรถเอง แต่ใช้ชื่อนายเบนซ์ เรซซิ่ง เป็นผู้ครอบครอง แต่นายเบนซ์ ได้ให้การไว้ว่า ตนเองเป็นคนซื้อรถเอง แต่ได้ยืมเงินจากนายบอย จำนวน 6 ล้านบาทมาดาวน์รถยนต์ ซึ่งคำให้การยังมีความขัดแย้งกันอยู่ รวมถึงเรียก สามีนางธัญรัตน์ วีระเดช เจ้าของรถโฟล์ค ป้ายทะเบียน กจ 51 ลำพูน มาให้ข้อมูลในฐานะพยานหลังพบว่าทะเบียนตรงกับรถลัมโบกินีคันที่ถูกอายัด ทั้งนี้หากในวันนี้ทั้งสามคนไม่มีการติดต่อเข้ามาพบ ก็จะมีการออกหมายเรียกทันที และยืนยันว่าการเรียกสอบปากคำบุคคลดังกล่าว ยังเป็นการเรียกสอบปากคำบุคคลเข้าให้การ เพื่อขอรับทราบข้อมูลที่ขยายผลไปถึง ซึ่งจะยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา แต่หากมีพยานหลักฐานพบการกระทำผิดชัดเจน ก็จะพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย