พระอัจฉริยภาพด้านวรรณกรรม บันทึกประจำวันของพ่อ "เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์" ตอนที่ 1
logo ข่าวอัพเดท

พระอัจฉริยภาพด้านวรรณกรรม บันทึกประจำวันของพ่อ "เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์" ตอนที่ 1

ข่าวอัพเดท : พระราชนิพนธ์เรื่องแรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือเรื่อง เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์ พระราชนิพนธ์เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ในหลวง,พระราชนิพนธ์,เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์,พระอัจฉริยภาพ,ด้านวรรณกรรม,สวิตเซอร์แลนด์,อ่าน

26,374 ครั้ง
|
17 ต.ค. 2559
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีผลงานทางด้านวรรณกรรมที่หลากหลาย ทั้งผลงานพระราชนิพนธ์ที่ทรงแต่งและที่ทรงแปล ตีพิมพ์เป็นบทความและเป็นหนังสือออกมาอย่างต่อเนื่องหลายเรื่อง ทั้งที่ทรงมีพระราชกรณียกิจมากมายแทบมิได้ว่างเว้น แต่ก็ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะในงานด้านวรรณกรรม แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถด้านวรรณกรรมของพระองค์ที่ยากจะหาผู้ใดเสมอเหมือน
 
ข่าวอัพเดท : พระอัจฉริยภาพด้านวรรณกรรม บันทึกประ      
 
พระราชนิพนธ์เรื่องแรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือเรื่อง "เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์" พระราชนิพนธ์เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือรายเดือน "วงวรรณคดี" ฉบับประจำเดือนสิงหาคม พ.ศ.2490 เป็นตอนแรก โดยพระบรมราชานุญาตพิเศษเฉพาะหนังสือเล่มนี้เท่านั้น ซึ่่งในสมัยนั้นถือได้ว่าหนังสือวงวรรณคดี จัดว่าเป็นหนังสือที่ดีและมีเนื้อหาสาระที่มีคุณค่าอย่างมาก
 
"เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์" เป็นพระราชนิพนธ์รูปแบบบันทึกประจำวันของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในช่วงเวลาตั้งแต่ก่อนที่จะเสด็จพระราชดำเนินกลับไปศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2489 - 22 สิงหาคม พ.ศ.2489 โดยทรงบันทึกความทรงจำและพรรณนาความรู้สึกของพระองค์ผ่านพระอักษรเป็นเรื่องราวการเดินทางที่สะท้อนให้เห็นถึงความรัก ความผูกพัน และความห่วงใยในพสกนิกรของพระองค์ 
 
ทั้งนี้ขอน้อมอัญเชิญพระราชนิพนธ์ "เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์" ฉบับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2489 - วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2489 มาให้ประชาชนชาวไทยได้อ่านกันอีกครั้ง ดังนี้
 
ข่าวอัพเดท : พระอัจฉริยภาพด้านวรรณกรรม บันทึกประ 
 
"วงวรรณคดี" ได้ขอร้องให้ข้าพเจ้าเขียนเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ถนัดมาลงในหนังสือนี้นานมาแล้ว อันที่จริงข้าพเจ้าก็ไม่ใช่นักประพันธ์ เมื่ออยู่โรงเรียน เรียงความและแต่งเรื่องก็ทำไม่ได้ดีนัก อย่างไรก็ดีข้าพเจ้าก็ปรารถนาที่จะสนองความต้องการของ "วงวรรณคดี" อยู่บ้าง และเนื่องด้วยไม่สามารถที่จะเขียนเรื่องที่ข้าพเจ้ารู้บ้าง เช่น ดนตรี ศิลป วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือ กฎหมาย ฯลฯ ได้ เพราะไม่มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ดีพอ ฉะนั้นจึงตกลงใจส่งบันทึกประจำวันที่เขียนไว้ก่อนและระหว่างวันเดินทางจากสยามสู่สวิทเซอร์แลนด์มาให้ และในโอกาสนี้ จึงขอขอบใจเป็นการส่วนตัวต่อทุกๆ คนที่มาถวายความจงรักภักดีที่มีต่อสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชของข้าพเจ้า ณ พระมหาปราสาท ตลอดจนความปรารถนาดีที่มีต่อตัวข้าพเจ้าเอง กับขอขอบใจเหล่าทหารและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการด้วยความจงรักภักดีต่อเราทั้งสองด้วย
 
วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙
 
อีกสามวันเท่านั้น เราก็จะต้องจากไปแล้ว ฉะนั้นจึงตั้งใจจะไปนมัสการพระพุทธชินสีห์ที่วัดบวรนิเวศน์วิหาร รวมทั้งสมเด็จพระสังฆราชด้วย
 
เมื่อไปถึงวัดบวรนิเวศน์วิหารตอนบ่ายวันนี้ มีประชาชนผู้รู้ว่าข้าพเจ้าจะมา มายืนรออยู่บ้าง แต่ไม่สู้มากนัก เข้าไปในพระอุโบสถ จุดเทียนนมัสการ ฯลฯ แล้วได้มีโอกาสทูลปฏิสันถารกับสมเด็จพระสังฆราช ทรงนำพระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์สูงให้มารู้จัก โดยปรกติได้เคยเห็นหน้าท่านเหล่านี้มาจนชินแล้ว ทรงนำขึ้นไปนมัสการพระสถูป บนนั้นมีพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ ชื่อ พระไพรีพินาศ พระองค์นี้เคยทรงเล่าประวัติให้ฟังมาก่อนหน้านี้แล้วหลายวัน หลังจากนั้นก็นมัสการลา
 
ตอนนี้มีราษฎรชุมนุมกันหนาตาขึ้น ต่างก็ยัดเยียดเบียดเสียดกันจนรู้สึกเกรงไปว่า รถที่นั่งมาจะทับเอาใครเข้าบ้าง ช่างเคราะห์ดีแท้ๆ ที่ไม่มีอันตรายอันใดเกิดขึ้นแก่ประชาชนที่มานั้นเลย ในหมู่ประชาชนที่มารอรับกันอยู่วันนี้ จำได้ว่า มีบางคนเคยเห็นที่พระมหาปราสาทเป็นประจำมิได้ขาด ไม่รู้ว่าหาเวลามาจากไหน จึงไปที่พระมหาปราสาทได้เสมอเกือบทุกวัน อังคาร พฤหัสบดี และวันอาทิตย์ พวกนี้ก็มาที่วัดนี้ด้วยเหมือนกัน
 
วันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙
 
เก็บของลงหีบและเตรียมตัว…
 
ข่าวอัพเดท : พระอัจฉริยภาพด้านวรรณกรรม บันทึกประ
 
วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ 
 
เราจะต้องจากไปในวันพรุ่งนี้แล้ว! อะไรก็จัดเสร็จหมด หมายกำหนดการก็มีอยู่พร้อม…บ่ายวันนี้เราไปถวายบังคมลาพระบรมอัฐิของพระบรมราชบุพพการีของเรา ทั้งสมเด็จพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระบรมราชินีในรัชกาลก่อนๆ แล้วก็ไปถวายบังคมลาพระบรมศพ เราต้องทูลลาให้เสร็จในวันนี้ และไม่ใช่พรุ่งนี้ตามที่ได้กะไว้แต่เดิม เพื่อจะรีบไม่ให้ชักช้า เพราะพรุ่งนี้จะได้มีเวลาแล่นรถช้าๆ ให้ราษฎรเห็นหน้ากันโดยทั่วถึง
 
เมื่อออกจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณมายังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ผู้คนอะไรช่างมากมายเช่นนั้น เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาถามว่า จะอนุญาตให้ประชาชนเข้ามาหรือไม่ในขณะที่ไปถวายบังคมพระบรมศพ ตอบเขาว่า "ให้เข้ามาซิ" เพราะเหตุว่า วันอาทิตย์เป็นวันสำหรับประชาชน เป็นวันของเขา จะไปห้ามเสียกระไรได้ และยิ่งกว่านั้นยังเป็นวันสุดท้ายก่อนที่เราจะจากบ้านเมืองไปด้วย ข้าพเจ้าก็อยากจะแลเห็นราษฎร เพราะกว่าจะได้กลับมาเห็นเช่นนี้ก็คงอีกนานมาก…วันนี้พวกทหารรักษาการณ์กันเต็มที่ เพื่อกันทางไว้ให้รถแล่นได้สะดวก ไม่เหมือนอย่างเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ที่มากันคน ช้าเกินไป…
 
สามารถอ่าน พระอัจฉริยภาพด้านวรรณกรรม บันทึกประจำวันของพ่อ "เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์" ตอนอื่นๆ ได้ที่นี่
 
 
 
 
 
 
 
 
ขอบคุณพระราชนิพนธ์ฉบับเต็มจาก www.praew.com 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง