พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ที่มีวาระการประชุมพิจารณาแต่งตั้งตำรวจระดับผู้บังคับการ ไปถึงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ วาระประจำปี2559 ว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตำแหน่งทั้งหมด 321 ตำแหน่ง โดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์ความเหมาะสม
ส่วนกรณีของ พลตำรวจตรี อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม กรณีที่ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการสภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจชุดเก่า ว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติและวิสัยทัศน์ เหมาะสมเป็นผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่กลับถูกคณะกรรมการชุดใหม่มีมติถอนชื่อออก จึงร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนในกรณีดังกล่าว โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เห็นว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ส่วนตัวมองว่าพลตำรวจตรี อดุลย์ เป็นคนทำงานอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนการร้องเรียนในลักษณะนี้มีเพียงพลตำรวจตรี อดุลย์ รายเดียวเท่านั้น
ขณะที่การโยกย้าย พลตำรวจเอกวุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปเป็น ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล ตนเองไม่กล้าสอบถามไปยังนายกรัฐมนตรีถึงเหตุผลการโยกย้ายดังกล่าว โดยจากการพูดคุยสอบถามกับพลตำรวจเอกวุฒิ ทราบว่าเป็นการความสมัครใจ และการย้ายในครั้งนี้เป็นการปรับระดับสายงานข้าราชการที่สูงขึ้น จากซี 10 เป็น ซี11
ทั้งนี้รายงานจากที่ประชุม ก.ตร.ถึงการพิจารณาตำแหน่งสำคัญว่า พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังคงดำรงตำแหน่งเดิม ส่วนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นของ พลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช , ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 เป็นของพลตำรวจโทจิตติ รอดบางยาง ส่วนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 เป็นของ พลตำรวจตรี พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ (รองผบช.น. , ด้านพลตำรวจตรีสมหมาย กองวิสัยสุข รองผบช.ก.(อาวุโส)ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด , พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข (รองผบช.น.) ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลเป็นต้น
+ อ่านเพิ่มเติม