อุดรธานี-เกิดเหตุคนร้ายฆ่าหั่นศพ นายปัญญา ทองศรี อายุ 50 ปี ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน บ้านโนนสวรรค์ ต.เชียงยืน อ.เมือง และแยกชิ้นส่วนออกเป็น 5 ชิ้น คือ แขน 2 ข้าง ขา 2 ข้าง และลำตัว ก่อนนำไปยัดใส่กระสอบและถังพลาสติก ในที่เกิดเหตุพบเขียงไม้และพลาสติกที่เต็มไปด้วยเลือด ใบตองที่ตัดวางไว้รองชิ้นส่วนของผู้ตาย ถังรองเลือด และมีดปลายแหลมยาว 50 ซม. โดยพบว่ารถ จยย. ของผู้ตายที่จอดไว้หายไป เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี
จากการสอบสวน เพื่อนของผู้ตายและผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ได้มาหาผู้ตายตามปกติ และเห็นผ้าห่มจัดวางคล้ายคนนอนอยู่ในมุ้งจึงร้องปลุกให้ตื่น แต่ไม่มีเสียงตอบ ตนจึงเดินเข้าไปในครัว และพบชิ้นส่วนแขนขาวางอยู่ในถังพลาสติก เลยรีบขี่รถจักรยานยนต์ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งตำรวจ
ด้าน น้องชายผู้ตาย ให้การว่า พี่ชายมีครอบครัวแล้ว แต่ภรรยาไปทำงานที่เกาหลี และลูกชาย 2 คนไปทำงานที่ไต้หวัน ส่วนพี่ชายนอนเฝ้าไร่อ้อย ที่พ่อตาแบ่งที่ดินให้ภรรยาซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็ก 50 ไร่ เพราะภรรยาและลูกของพี่ชายส่งเงินเลี้ยงดูพ่อตา จึงได้รับมรดกมากกว่าลูกเขยคนอื่นอีก 4 คน แต่ช่วงระยะ 3 ปีที่ผ่านมา พี่ชายทะเลาะมีปากเสียงกับพ่อตา เพราะพ่อตาไม่พอใจที่ชอบพาเพื่อนมานั่งดื่มเหล้าที่บ้าน และไม่ทำงานอย่างจริงจัง รอใช้เงินที่ภรรยาและลูกส่งมาให้เดือนละ 8,000 บาท พี่ชายจึงแยกตัวออกมาอยู่ที่กระท่อมที่เกิดเหตุ แต่จะนำเงินที่ภรรยาฝากไปให้พ่อตาเป็นประจำ และพี่ชายเคยบ่นให้ฟังเรื่องญาติภรรยาไม่พอใจที่ครอบครัวตนได้มรดกเยอะกว่าญาติพี่น้อง
ผบก.ตร.ภูธร จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้น สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือญาติ โดยคนร้ายได้ใช้มีดฟันศีรษะด้านหลังของผู้ตายจนล้มลง แล้วฟันซ้ำอีกหลายครั้งจนกะโหลกเปิด ก่อนหั่นศพผู้ตายเพื่อนำไปทิ้งอำพราง แต่คาดว่าน่าจะมีชาวบ้านผ่านไปมาแถวนี้ ทำให้คนร้ายทิ้งศพและขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีไป โดยตำรวจตั้งประเด็นการสังหารไว้ที่การขัดแย้งเรื่องมรดกของภรรยาผู้ตาย แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นการทะเลาะวิวาท หรือเรื่องธุรกิจมืด แต่ก็มีน้ำหนักน้อยมาก จึงมุ่งไปที่ปมมรดกมากกว่า ทั้งนี้จะต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอจากศพ และหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม