ฎีกาฟังไม่ขึ้น! 'สนธิ ลิ้มทองกุล' ถูกจำคุก 20 ปี คดีทำเอกสารค้ำประกันกู้เงินเท็จ 1,078 ล้านบาท
logo ข่าวอัพเดท

ฎีกาฟังไม่ขึ้น! 'สนธิ ลิ้มทองกุล' ถูกจำคุก 20 ปี คดีทำเอกสารค้ำประกันกู้เงินเท็จ 1,078 ล้านบาท

ข่าวอัพเดท : ศาลฎีกา พิพากษายืนจำคุก นายสนธิ ลิ้มทองกุล 20 ปี ในคดีทำเอกสารรายงานการประชุมเท็จให้ บริษัทแมเนเจอร์ฯ ค้ำประกันการกู้เงินธนาคารกรุงไ สนธิ,ลิ้มทองกุุล,ศาลฎีกา,พิพากษา,จำคุก

17,127 ครั้ง
|
06 ก.ย. 2559
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการ และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมาเข้าฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีกระทำผิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 หลังเมื่อ วันที่ 29 เมษายน 2539 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2540 นายสนธิและพวก 3 คน ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกันทำสำเนารายงานการประชุมของกรรมการบริษัทที่เป็นเท็จ มีมติให้บริษัทเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ให้กับบริษัท เดอะ เอ็ม กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ซึ่งนายสนธิ ถือหุ้นอยู่ รวม 6 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 1,078 ล้านบาท โดยไม่ได้ขออนุมัติจากมติที่ประชุมกรรมการบริษัท และยอมให้เปลี่ยนแปลงบัญชีไม่ตรงกับความจริง โดยไม่ได้นำภาระการค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าวส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพื่อลวงให้ผู้ถือหุ้น บริษัทแมเนเจอร์ฯ ขาดประโยชน์ที่ควรจะได้รับ รวมทั้งเป็นการลวงให้นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้รับรู้ถึงการค้ำประกันหนี้ดังกล่าว
 
ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555 ให้จำคุกนายสนธิ 42 ปี 6 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกสูงสุดตามกฎหมายคนละ 20 ปี ต่อมานายสนธิได้ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาอีกครั้งเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2557 โดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จึงยื่นฎีกาอีกครั้งที่ศาลฎีกา
 
ซึ่งล่าสุด ศาลฎีกา ได้ตรวจสำนวนแล้วเห็นว่า การกระทำของนายสนธิที่ทำรายงานการประชุมเพียงหนึ่งครั้งแต่นำไปค้ำประกันการกู้ยืมเงิน 6 ครั้ง ในวันเวลาที่แตกต่างกัน เป็นเวลา 1 ปี และมีจำนวนเงินแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ฎีกาที่จำเลยยื่นมาฟังไม่ขึ้น ส่วนที่ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ ศาลเห็นว่า นายสนธินำบริษัทแมเนเจอร์ฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ต้องมีหลักธรรมมาภิบาล หากนายสนธิซึ่งขณะนั้นเป็นกรรมการบริษัทกระทำผิดย่อมสร้างผลกระทบต่อบริษัท ซึ่งการกระทำของนายสนธิเป็นความผิดร้ายแรง ส่งผลกระทบจำนวนมาก ที่อ้างถึงคุณงามความดียังไม่เพียงพอที่จะให้รอการลงโทษได้ ฏีกาที่ยื่นมาจึงฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษมานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาจึงขอพิพากษายืน
 
ภายหลังการฟังคำพิพากษาดังกล่าว นายสนธิได้โอบกอดให้กำลังใจจำเลยร่วม ก่อนจะออกมาโทรศัพท์แจ้งข่าวรายงาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวไปยังห้องควบคุมตัวใต้ถุนศาล เพื่อรอส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง