ด.ญ.วัย 13 เฝ้าเพื่อนที่ รพ. ถูก รปภ.พยายามปล้ำ พอหนีได้กลับถูก ส.ต.ท.จะข่มขืน ก่อนออกมาขอความช่วยเหลือ
logo ข่าวอัพเดท

ด.ญ.วัย 13 เฝ้าเพื่อนที่ รพ. ถูก รปภ.พยายามปล้ำ พอหนีได้กลับถูก ส.ต.ท.จะข่มขืน ก่อนออกมาขอความช่วยเหลือ

86,845 ครั้ง
|
05 ก.ย. 2559
     เมื่อเวลา 15.30 น.  ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากญาติผู้เสียหายว่า หลานสาวเป็นนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอประจันตคาม สังกัด สพป.ปราจีนบุรี เขต 1 และขณะนี้ตนเองพร้อมญาติได้นำหลานมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ขอให้ผู้สื่อข่าวมาทำข่าว เนื่องจากเกรงว่าคดีนี้ ทางหลานสาวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ต้องหาจำนวน 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ ร.พ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
 
     ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี พบญาติของเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี กำลังให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนว่า ในช่วงค่ำที่ผ่านมาตนเองได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนและจะนอนเฝ้าที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร หลังจากที่เข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกับเพื่อน จึงได้ออกมาเดินเล่นที่บริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาล ช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม พบกับนายพรหม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลเข้ามาพูดคุยด้วย พร้อมทั้งสอบถามตนว่าคืนนี้จะไปนอนไหน และชักชวนให้ไปนอนที่บ้านของยาม ตนเองเห็นว่ายามคนดังกล่าวเคยพูดคุยกับเพื่อนรุ่นพี่จึงเชื่อใจ และเห็นว่าอายุมากแล้ว จึงได้ไปนอนที่บ้านของยามอยู่ที่ตำบลดงพระราม โดยนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปที่บ้าน เมื่อไปถึงที่บ้านพักยามได้อุ้มตัวตนเองเข้าไปในห้องนอน พยายามจะลวนลาม ด้วยความกลัวได้วิ่งหนีออกมาจากบ้าน จนออกมาพบผู้ช่วยกำนัน ได้โทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจมารับตนไปที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี 
 
     เมื่อมาถึงที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี เป็นเวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจให้ตนเองอยู่บน สภ.เมืองก่อน เพื่อกลับบ้านในตอนเช้า ปรากฏว่ามี ส.ต.ท. คนหนึ่ง อายุ 37 ปี ตำแหน่ง พลขับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้มาแจ้งให้ตนเองทราบว่าใน สภ.เมือง ไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปมานอนพักได้ พร้อมชักชวนให้ไปนอนที่ห้องพักบนแฟลตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยความเชื่อใจเพราะเห็นเป็นตำรวจ จึงยอมเดินทางไปที่ห้องพักที่อยู่หน้า สภ.เมืองปราจีนบุรี เมื่อเข้าไปในห้องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ว่าวิทยุแจ้งเหตุต้องออกไปด้านนอก พร้อมหยิบยาเม็ดเล็กสีเหลืองจำนวน 4 เม็ด มาให้ตนเองกิน ก่อนที่จะออกไปนอกห้อง ส่วนตนเองกลัวว่ายาดังกล่าวจะไม่ปลอดภัยสำหรับตน จึงได้นำยาซุกไว้ใต้หมอน ก่อนนำใส่กระเป๋ากางเกงไว้
 
     จนกระทั่งเวลา 6 โมงเช้า ส.ต.ท.ได้กลับเข้ามาที่ห้องพัก เปลี่ยนเครื่องแต่งตัว และมานอนข้างตนเอง พร้อมทั้งถามว่าได้กินยาที่ให้แล้วหรือยัง จึงตอบว่ากินแล้ว ทาง ส.ต.ท.เริ่มเข้ามาลวนลาม โดยใช้นิ้วมือสอดเข้าไปในอวัยวะเพศ ด้วยความกลัวจึงร้องให้คนช่วย ส.ต.ท. ต้องการให้เงียบเสียง โดยใช้ปากเข้ามาจูบปากของตนเอง ตนเองจึงกัดที่ริมฝีปาก ก่อนวิ่งหนีออกนอกห้อง มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจห้องข้างเคียงช่วยเหลือ พร้อมแจ้งญาติพาตัวแจ้งให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและยาม 
 
     หลังจากรับแจ้งพนักงานสอบสวนจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปจับกุมตัวยามได้ที่ ร.พ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ส่วน ส.ต.ท.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวยังไม่พบ ทราบเพียงว่าอยู่นอกพื้นที่ ส่วนเด็กหญิงบีทางพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวไปให้แพทย์ทำการพิสูจน์ร่องรอยของการล่วงละเมิดทางเพศ รวมทั้งยาของกลางที่เด็กหญิงบีรับมาจาก ส.ต.ท.ซึ่งคาดว่าผลการตรวจสอบจะทราบผลภายใน 5 วัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง