ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจยังเร่งคลี่ปมคดี สจ.โต้ง ถูกยิงในบ้านนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ล่าสุด ทีมข่าวไปได้คลิปตอนเกิดเหตุ เสียงปืนดังสนั่นซอย
เปิดวินาทีเสียงปืนยิง สจ.โต้ง
วงจรปิดที่ทีมข่าวได้มา ในคืนและเวลาเกิดเหตุ จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ชุดแรกในเวลา 20.35 น. จำนวน 5 นัดติดต่อกัน จากนั้นเว้นไปประมาณ 7 วินาที ก็จะได้ยินเสียงปืนยิงปะทะกันไปมาไม่ต่ำกว่า 20 นัด โดยวงจรปิดตัวนี้อยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ เพียง 100 เมตร เท่านั้น
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักหน้าบันได ทางขึ้นชั้น 2 ของบ้าน นางสาวกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (11 ธ.ค.)
เมื่อเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ก็มีหลายคนสงสัยว่า หลังจาก สจ.โต้ง พา นายสุนทร วิลาวัลย์ ที่น้อง ๆ ทุกคนเรียกติดปากว่า โกทร ไปส่งขึ้นนอนที่ชั้น 2 ของบ้านแล้ว เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ทำไม นายสุนทร ที่กำลังพักผ่อนในห้องนอน ไม่ยอมออกมาดู ทั้ง ๆ ที่ สจ.โต้ง เป็นลูกบุญธรรม จึงทำให้เป็นที่น่าผิดสังเกต
ผลชันสูตรศพ สจ.โต้ง โดนยิง 22 นัด
ภายหลังผลชันสูตรศพเผยว่า เจอกระสุนลูกปรายจากปืนลูกซอง เข้าที่ลำตัว 17 นัด กระสุนลูกโดด เข้าที่ใบหน้า 2 นัด, หลัง 1 นัด, ก้น 2 นัด รวมทั้งหมด 22 นัด เจาะเข้ากระโหลก หน้าอก และร่างกาย ในลักษณะถูกยิงระยะประชิด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต กระสุนเข้าที่ปอดและทำลายอวัยวะช่องท้อง
ส่วนนบรรยากาศงานศพ ก็มีหัวหน้าส่วนราชการ นักการเมืองท้องถิ่น และนักมวย หลายคนเข้าร่วมฟังพระสวดอภิธรรมศพ นอกจากนั้น ยังมีพวงหรีดจากหัวหน้าพรรคการเมืองต่าง ๆ ส่งมาไว้อาลัยให้กับ สจ.โต้ง อาทิ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า, ดร.ทักษิณ ชินวัตร, นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์, นายธาดา ไทยเศรษฐ์ นอกจากนั้น ก็ยังมีบุคคลสำคัญอื่น ๆ ในพื้นที่ ส่งพวงหรีดมาไว้อาลัยกับ สจ.โต้ง เช่นกัน
คุมตัว 3 ผู้ต้องหา ชี้จุดยิง “สจ.โต้ง”
เมื่อเช้านี้ ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายธนภัทร, นายอภิสิทธิ์ และ นายสิทธิชัย ไปชี้จุดยิง สจ.โต้ง
จุดแรก คือ ทางเข้าบ้าน จุดที่ 2 คือ ห้องโถงกลางบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่ สจ.โต้ง นอนเสียชีวิตบริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของบ้าน จุดที่ 3 คือ ชั้น 2 ของบ้าน
โดยทั้ง 3 จุด มีเพียงเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องอยู่ด้านในเท่านั้น ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ ตำรวจใช้เวลาในการชี้จุดเกิดเหตุนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กลับ สภ.ปราจีนบุรี เพื่อให้ตำรวจกองบังคับการปราบปราม สอบปากคำเพิ่มเติม
กนกวรรณ ลั่นรัก สจ.โต้ง เหมือนน้อง
ด้าน นางสาวกนกวรรณ วิลาวัลย์ เดินทางเข้าเยี่ยม นายสุนทร ผู้เป็นพ่อ ก่อนออกมาเผยว่า เรื่องคดีขอให้เป็นไปตามกฎหมายและไม่ได้มีความกังวลเรื่องอะไร แต่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่า เพราะพ่อป่วยมีโรคประจำตัวหลายโรค รวมทั้งเพิ่งผ่าตัดหัวเข่ามา ทำให้เดินไม่สะดวก
ส่วนประเด็นเรื่องการเสียชีวิตของ สจ.โต้ง ที่เชื่อมโยงเรื่องการเมือง ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และตัวเองไม่ได้คิดจะส่งใครลงเป็นคู่แข่งตามที่มีกระแสข่าวลือ
โดยเฉพาะกระแสข่าวที่ว่า ตัวเองจะมีการส่งลูกชายลงสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.ปราจีนบุรี ก็ไม่เป็นความจริง เพราะลูกชายตัวเองเกิดปี 2538 ซึ่งอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะลงสมัครได้
นอกจากนี้ นางสาวกนกวรรณ ยังบอกด้วยว่า ส่วนตัวสนับสนุน สจ.โต้ง ในการลงสมัครรับเลือกตั้งมาโดยตลอด เช่นเดียวกับ พ่อ ก็สนับสนุน เพราะพ่อก็รัก สจ.โต้ง มากเหมือนลูกคนหนึ่ง เนื่องจากอยู่ด้วยกันมานาน อีกทั้ง ตนเองก็รัก สจ.โต้ง เหมือนน้องชาย
ส่วนที่มีกระแสข่าวเชื่อมโยงเรื่องการเมือง นางสาวกนกวรรณ บอกว่า น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ตัวเองก็ไม่ทราบรายละเอียดของเหตุที่เกิดขึ้น เพราะไม่ได้อยู่ที่บ้านในวันเกิดเหตุ
รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี ให้ปากคำ
ขณะที่ นายกฤษฎิ์ กษมพันธุ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยู่กับ สจ.โต้ง เป็นคนสุดท้ายก่อนที่จะถูกยิง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ไปบ้านโกทร พร้อมกับ สจ.โต้ง ทั้ง สจ.โต้ง และ โกทร คุยกันเรื่องการลงสมัครเลือกตั้ง ซึ่ง สจ.โต้ง ต้องให้การ โกทร พูดออกมาให้ชัดว่าจะสนับสนุนหรือไม่
จากนั้นทั้งคู่กํบทะเลาะกัน แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่ทั้งคู่มักจะทะเลาะกันแบบนี้ ก่อนที่ สจ.โต้ง จะกราบเท้าโกทร แล้ว โกทร ก็ขึ้นห้องนอน จากนั้นตนกับ สจ.โต้ง ออกมาจากบ้าน แต่ประตูรีโมตหน้าบ้านล็อก ต้องตะโกนให้คนในบ้านเปิดให้ จากนั้น สจ.โต้ง เข้าไปในบ้านอีกรอบ ส่วนตนเองออกไปนอกตัวบ้าน ไปคุยกับลูกน้อง สจ.โต้ง ผ่านไป 10 นาที หลังจากนั้นมีเสียงปืนชุดแรกดังขึ้นกว่า 10 นัด แล้วตามมาด้วย ชุดที่ 2 อีกประมาณ 10 นัด
นายกฤษฎิ์ บอกด้วยว่า ตอนที่เข้าไปในบ้านครั้งแรก ไม่เห็นกลุ่มมือปืน เห็นมีคนในบ้านแค่ 2 คน ไม่รู้ว่าออกมายิง สจ.โต้ง จากจุดไหน
ตำรวจมั่นใจ แม้ไม่มีภาพวงจรปิด ก็เอาผิดได้
ด้าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี ได้ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นจะไปขอดูในที่เกิดเหตุก่อน ว่ามีสภาพเป็นอย่างไร และจะได้กลับมาประชุมหารือ พร้อมกำชับไปว่ามีประเด็นไหนบ้าง เพื่อนำไปประกอบสำนวน ส่วนกรณีที่ว่าจะมีคนบงการ หรือพูดคุยวางแผนมาก่อนหรือไม่อย่างไร ก็ต้องรอดูพยานหลักฐาน
ส่วนประเด็นเบื้องต้นทราบอยู่แล้ว คือ เรื่องการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากผู้ตายและกลุ่มผู้ก่อเหตุ เป็นกลุ่มเดียวกันมาก่อน แต่พอมาระยะหลังมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามากวาดล้าง กลุ่มก็แตกแยกออกไป ทำให้ยังมีเรื่องคาใจหลายเรื่อง จนมาถึงการแข่งขันการเมืองท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้
ส่วนประเด็นเรื่องของกล้องจรปิดที่พบว่าเสีย พล.ต.ท.อัคราเดช บอกว่า ไม่ว่ากล้องจะเสียหายหรือไม่ ตำรวจก็จะส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ ซึ่งไม่ได้เป็นการตัดรอนในการค้นหาหลักฐาน เพราะหลายคดีที่ผ่านมา ไม่มีกล้องวงจรปิด ก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน สรุปสำนวนส่งฟ้องได้
นอกจากนี้ พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บพยานหลักฐาน ทั้ง เขม่าดินปืน ร่องรอยทุกคน มือ เสื้อผ้า หน้าผม ขณะที่ตัวของผู้ตาย สจ.โต้ง จากการตรวจสอบวันเกิดเหตุ ไม่มีการพกพาอาวุธเข้าไปภายในบ้านของโกทร อีกทั้งเข้าไปคุยคนเดียว และปล่อยให้ลูกน้องอยู่ด้านนอก
กรุงเทพมหานคร
ภรรยา สจ.โต้ง ยื่นขอโอนคดี
ส่วนที่กองบังคับการปราบปราม วันนี้ นางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และ ทนายนิติศักดิ์ มีขวด เข้ายื่นหนังสือ ขอโอนสำนวนคดีการตายของ สจ.โต้ง มาที่กองบังคับการปราบปราม
ทนายนิติศักดิ์ เผยว่า คดีดังกล่าวผู้เสียชีวิตถูกยิงถึง 22 นัด และโดนจุดสำคัญทั้งหมด อีกทั้ง ยังมีผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง จึงเกรงว่าตำรวจในพื้นที่จะถูกแทรกแซง ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ตำรวจ สภ.ปราจีนบุรี จะทำงานไม่ดี แต่อยากให้โอนคดี เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย และเกรงว่าจะไม่ได้รับ ความเป็นธรรม
แฉชาย 2 คนในบ้าน โกทร ไม่ถูกเรียกสอบ
ด้าน นายอัจฉริยะ เผยว่า วันนี้ตนมาในฐานะพี่คนสนิทของ สจ.โต้ง ยืนยันว่า จะไม่ให้ สจ.โต้ง ตายฟรี โดยจะมีการตั้งทีมทนายความทั้งหมด 2 ชุด มาดำเนินการ ส่วนประเด็นที่ตนเองสงสัยคือ วันที่เกิดเหตุ มีบุคคลอยู่ในบ้านมากกว่า 7 คนที่ถูกจับ โดย 2 ใน 7 คน คือ ลูกเขย และหลานชายของนายสุนทร โดยลูกเขยทำหน้าที่ใช้ปืนจี้ข่มขู่ลูกน้องของ สจ.โต้ง ซึ่งเป็นตำรวจ ขณะที่เข้าไปช่วยเหลือ หลัง สจ.โต้ง เสียชีวิตแล้ว ส่วนหลานชายทำหน้าที่ล็อกประตู เพื่อไม่ให้ลูกน้องของ สจ.โต้ง เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่ง 2 คนนี้ จะอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้อย่างไร ในเมื่ออยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ อีกทั้ง ทำไมตำรวจถึงไม่สอบปากคำ 2 คนนี้ จึงมองว่าถ้าหากให้ สภ.เมืองปราจีนบุรี ดำเนินการเรื่องของคดีนี้ จะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ภรรยา สจ.โต้ง ลั่นไม่อยากเจอหน้า สุนทร
ด้าน สจ.จอย ภรรยา สจ.โต้ง บอกว่า ก่อนหน้านี้ สจ.โต้ง ก็มีปัญหากับ นายสุนทร พ่อบุญธรรม เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็สามารถตกลงกันได้ ส่วนวันเกิดเหตุ สจ.โต้ง ก็เข้าไปเคลียร์ใจตามปกติ ครั้งแรกเข้าไปมีลูกน้องไปด้วย โดยได้รับการเปิดเผยมาว่า พูดคุยกันถึงขั้นที่ นายสุนทร ร้องไห้ และ สจ.โต้ง ได้ก้มกราบเท้าจริง ซึ่งการคุยครั้งแรกเคลียร์ใจกันเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ สจ.โต้ง จะกลับเข้าไปอีกรอบ เพื่อไปส่ง นายสุนทร เข้านอน แต่การเข้าไปครั้งที่ 2 สจ.โต้ง เข้าไปเพียงคนเดียว เพราะคู่กรณีมีการปิดประตูรั้วไม่ให้ผู้อื่นเข้า จากนั้นไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้นมา
สจ.จอย ยอมรับว่า กังวลและเป็นห่วงลูก และต้องการให้กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบคดี เพราะรู้ว่าในจังหวัดปราจีนบุรี ตนไม่สามารถทำอะไรได้เลย ส่วนจะมีการบงการหรือไม่ สจ.จอย บอกว่า ไม่ทราบได้ แต่การกระทำที่เกิดขึ้นมันโหดร้ายเกินไป อีกทั้ง ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีผลต่อการที่จะตัดสินใจลงเล่นการเมืองท้องถิ่น แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องขอปรึกษาพูดคุยกับผู้ใหญ่ก่อน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า เจอ นายสุนทร อยากจะพูดอะไรหรือไม่ สจ.จอย กล่าวว่า ไม่อยากพูด ไม่อยากเจอ ไม่อยากเห็นหน้า
แฉ ! สจ.โต้ง มีตำรวจติดตาม 4 นาย
ส่วนประเด็นที่ เพจดาวแปดแฉก โพสต์ระบุว่า วันเกิดเหตุ มีตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 นาย ทั้งสัญญาบัตร และชั้นประทวน สังกัดหน่วยงานแห่งหนึ่ง อยู่บริเวณหน้าบ้านหลังเกิดเหตุ แต่ไม่สามารถอารักขาชีวิตของ สจ.โต้ง ได้ ซึ่งพบว่าเป็นตำรวจคอยติดตาม
เรื่องนี้ พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ รักษาการผู้บัญชาการตรำวจภูธรภาค 2 เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง 4 ตำรวจชุดสืบจังหวัดปราจีนบุรี ที่อยู่ในชุดอารักขา สจ.โต้ง ในวันเกิดเหตุ เพื่อดำเนินการทางวินัยแล้ว พบว่า มีทั้ง ระดับรองสารวัตร 2 นาย และชั้นประทวน 2 นาย
ทักษิณ รับ สจ.โต้ง เตรียมส่งภรรยาชิงเก้าอี้
ส่วนที่มีแช็ตหลุดคนสนิท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดคุยกับ นายชัยเมศร์ หรือ สจ.โต้ง ก่อนเสียชีวิตนั้น
ล่าสุด นายทักษิณ ยอมรับว่า ก่อน สจ.โต้ง จะถูกยิงเสียชีวิต มีความคิดจะให้ ภรรยาลงสมัคร ชิงนายก อบจ.ปราจีนบุรี ในนามพรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่า ได้มีการพูดคุยกับนายสุนทร แล้ว แต่ถูกเรียกไปอีกครั้งหนึ่ง จะเป็นการเรียกไปต่อรองกันหรือไม่ ส่วนตัวไม่อาจทราบได้
หลังจากนี้ พรรคเพื่อไทย จะส่งใครลงชิงเก้าอี้ นายก อบจ.ปราจีนบุรี นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบ หรืออาจจะไม่ส่งก็ได้ เพราะก่อน สจ.โต้ง จะเสียชีวิต ได้พูดคุยกันว่า สส.ปราจีนบุรี พรรคเพื่อไทย จะสนับสนุนภรรยาของ สจ.โต้ง แต่ตอนนี้ถอนตัวแล้ว เพราะคงไม่กล้าลง
ฝากขัง สุนทร พร้อมพวก คดีฆ่า สจ.โต้ง
ส่วนผู้ต้องหา 7 คน รวมทั้ง นายสุนทร วิลาวัลย์ ขณะนี้ตำรวจได้คุมตัวฝากขังแล้ว
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35