ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สุดสลด รถทัวร์ทัศนศึกษาดูงาน เทศบาลตำบลพรเจริญ พลิกคว่ำบริเวณทางลงเขา เสียชีวิต 19 ราย บาดเจ็บรวม 31 ราย
รถทัวร์คณะดูงานพลิกคว่ำ เสียชีวิต 18 คน
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วง 03.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจสภ.วังขอนแดง รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทยกบินทร์บุรี ว่ามีอุบัติเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากกว่า 40 ราย ติดอยู่ภายในรถบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทนขาเข้ากบินทร์บุรี ในพื้นที่ หมู่ 4 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อไปถึงพบรถบัส หมายเลขทะเบียน 30-0040 บึงกาฬ อยู่ในสภาพพลิกตะแคงข้างพิงกับเขาโดยสภาพหลังคาฉีกขาดทั้งแถบ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณทางโค้งลงเขาพบแท่งแบริเออร์ริมทางถูกเฉี่ยวชนล้มเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร ส่วนรถคันดังกล่าวทราบว่าเป็นคณะทัวร์ในโครงการพัฒนาศักยภาพและการศึกษาดูงานคณะกรรมการธนาคารขยะหมู่บ้าน จากเทศบาลตำบลพรเจริญ อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ กำลังเดินทางไปศึกษาดูงานที่จังหวัดระยอง มาด้วยกันทั้งหมด 3 คัน คันที่ประสบอุบัติเหตุเป็นคันที่ 3 จำนวนผู้โดยสารมา 47 คน คนขับ 2 คน รวม 49 คน ซึ่งล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 19 ราย บาดเจ็บอีก 30 ราย
นาทีบีบหัวใจ ! ญาติโทรหาผู้ตาย
ขณะที่ช่วงหลังเกิดเหตุ ญาติของหลาย ๆ คนพยายามโทรหาคนในรถทัวร์ด้วยความเป็นห่วง แต่ปลายสายที่รับเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยแจ้งข่าวร้าย ถึงกับสะอื้นร่ำไห้ด้วยความเสียใจ
เจ้าของรถทัวร์ เผยสาเหตุโศกนาฏกรรม
นาย บุญทัน ชาตรี เจ้าของรถทัวร์คันดังกล่าว ที่นั่งโดยสารมากับคนขับ และนั่งอยู่ด้านหลังคนขับกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นคนขับกำลังจะเปลี่ยนเกียร์รถจากเกียร์ 3-2 ตามลำดับแต่ไม่สามารถเข้าเกียร์ต่ำได้ เนื่องจากเบรคลมหมด ทำให้รถที่กำลังวิ่งลงพื้นที่ลาดเชิงเขา เพิ่มความเร็วขึ้น ซึ่งตอนนั้นมีรถบรรทุกวิ่งอยู่ข้างหน้า จึงต้องหักหลบ และทำให้เสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฝากขอโทษญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย
เปิดใจคนขับรถทัวร์ อ้างเป็นเหตุสุดวิสัย
สอดคล้องกับคนขับรถทัวร์ ซึ่งตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ยังสามารถพูดคุยได้ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพยายามเปลี่ยนเกียร์ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ รถจึงเสียการควบคุม ยืนยันว่าก่อนนำรถมาใช้งาน ได้ตรวจสภาพก่อนแล้วทุกครั้ง อุบัติเหตุครั้งนี้ถือเป็นเหตุสุดวิสัย
แจ้งข้อหาหนักคนขับรถทัวร์
ตำรวจระบุว่า จากการสอบปากคำคนขับเบื้องต้น อ้างว่า ระบบเบรกขัดข้อง ไม่สามารถควบคุมรถได้ ซึ่งตลอดทางลงเขาได้ขับรถโดยใช้เกียรต่ำที่ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และได้มีการจอดรถพักที่ อำเภอปักธงชัย แต่ไม่ได้แวะจุดพักรถก่อนลงเขา ที่เป็นจุดลงเวลาของรถบรรทุก เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ โดยตำรวจได้ประสานรถยก เพื่อกู้ซากรถทัวร์ออกจากที่เกิดเเหตุเรียบร้อยแล้ว จากนี้ก็ต้องนำรถมาตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้ว่าฯ เตรียมก่อสร้างจุดพักรถเพิ่ม ป้องกันเหตุ
ด้าน นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ระบุว่า ถนนจุดนี้เป็นทางลงเขา ค่อนข้างลาดชัน ซึ่งก่อนถึงจุดเกิดเหตุ มีจุดพักรถ แต่สถานที่ค่อนข้างแคบ สามารถจอดรถได้น้อย จึงได้ประสานกรมทางหลวงเพื่อขยายจุดพักรถให้กว้างขึ้น เพื่อได้พักตรวจสภาพรถ และพักคนด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะป้องกันเหตุได้
ญาติเศร้ารับศพ-พบผู้ช่วยสาธาณสุขเสียชีวิตด้วย
ส่วน บรรยากาศที่จังหวัดบึงกาฬ ญาติ ๆ จัดเตรียมงานรอรับศพมาประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งคาดว่าน่าจะเดินทางมาถึงช่วงเที่ยงคืนนี้
ขณะเดียวกันพบว่าหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นสาวผู้ช่วยสาธารณสุขเทศบาลพรเจริญ อายุ 33 ปี ญาติ ๆ อยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ และร้องไห้ตลอดเวลา ไม่สามารถทำใจได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
นอกจากนี้ญาติ ๆ ยังโพสต์ภาพเพื่อไว้อาลัยผู้ช่วยสาธารณะสุขสาวคนนี้ ระบุข้อความว่า ไปเป็นนางฟ้า บนสวรรค์เด้อ อ้อย น้องรัก โดยมีคนเข้ามาแสดงความสียใจจำนวนมาก
นายกฯ เสียใจเหตุรถทัวร์คว่ำ
ขณะที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุรถบัสคว่ำ โดยระบุว่า กรณีรถบัสดูงานจากจังหวัดบึงกาฬ ประสบอุบัติเหตุ ดิฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีการดูแลผู้บาดเจ็บให้ได้รับการรักษาเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินแล้ว และสำหรับผู้ที่บาดเจ็บไม่มาก ให้มีการดูแลอำนวยความสะดวกให้เดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย
นายกฯ อิงค์ ระบุด้วยว่า ได้กำชับให้กระทรวงคมนาคมตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และหากพบว่ามีการฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ผ่านมาตรฐานหรือเข้าข่ายใช้รถด้วยความประมาท ขอให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และได้กำชับไปเรื่องการตรวจรถที่ต้องปลอดภัย ผ่านมาตรฐานที่กำหนดก่อนนำมาใช้งาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดการสูญเสียเช่นนี้อีก
ก.คมนาคม สั่งสอบเหตุสลด
ด้าน นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากอุบัติเหตุดังกล่าว ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้หายโดยเร็ว ทั้งนี้ ตามที่นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้เร่งตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ตนได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก ไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด และเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุอย่างเร่งด่วน ก่อนรายงานกลับมายังกระทรวงคมนาคม
ขณะเดียวกันให้กรมการขนส่งทางบก ได้ประสานกับพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามผลคดีอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเรียกผู้ประกอบการมาชี้แจงข้อเท็จจริง หากพบว่า มีการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ให้ดำเนินการพิจารณาลงโทษในกรณีความผิดต่อไป นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้กรมการขนส่งทางบก คุมเข้มรถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องผ่านการตรวจสภาพรถ และจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเช่นนี้ขึ้นอีก
เร่งเยียวยาผู้บาดเจ็บ-ผู้เสียชีวิต
ด้าน นายรชฏ เกตุบรรจง ผอ.คปภ.จังหวัดนครนายก ที่ดูแลพื้นที่ จังหวัดนครนานยก และปราจีนบุรี กล่าวว่า รถคันดังกล่าว มี พรบ.ภาคบังคับ กรณีเสียชีวิตจะได้รับชดเชย 500,000 บาทต่อราย และมีประกันภัยประเภท 3 ให้ความคุ้มครองผู้เสียชีวิต 500,000 บาทต่อราย เช่นกัน แล้วก็มีประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลกรณีผู้โดยสารและผู้ขับขี่เสียชีวิตให้ความคุ้มครอง 50,000 บาทต่อราย ผู้โดยสารก็จะได้รับคุ้มครองประกันภัย พรบ.วงเงินสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อรายด้วย
ย้อน 10 ปี อุบัติเหตุเขาศาลปู่โทน
สำหรับถนนสาย 304 บริเวณเขาศาลปู่โทน ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากลักษณะทางลาดชันและโค้งอันตราย ย้อนสถิติอุบัติเหตุ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2557-2568 บริเวณจุดนี้ เกิดขึ้นทั้งหมด 15 ครั้ง เสียชีวิตกว่า 40 ศพ
- โดย ปี 2557 อุบัติเหตุ 2 ครั้ง คือวันที่ 28 กุมภาพันธ์ รถทัวร์ 2 ชั้น นำนักเรียนและครูจากโรงเรียนบ้านดงหลบใหม่สามัคคีวิทยา อำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา ไปทัศนศึกษาที่หาดจอมเทียนพัทยา จังหวัดชลบุรี เบรกแตกเสียหลักพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ มีผู้เสียชีวิต 14 คน บาดเจ็บ 37 คน ต่อมา วันที่ 2 สิงหาคม เกิดเหตุ รถพ่วง 8 ล้อ เบรกแตกลงเขาโทน พุ่งชนรถที่วิ่งสวนมา 5 คัน มีผู้เสียชีวิต 4 คน ได้รับบาดเจ็บ 15 คน
- ปี 2558 อุบัติเหตุครั้งเดียว เกิดเหตุ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เบรกแตกเสียหลักข้ามเลน ชนรถเก๋งและกระบะหลายคัน มีผู้เสียชีวิต 8 คน
- ปี 2559 อุบัติเหตุ 3 ครั้ง คือวันที่ 28 มีนาคม รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกน้ำตาล จาก จังหวัดอุดรธานี เบรกแตกเฉี่ยวชนรถพ่วง รถกระบะ และรถสายตรวจ รวม 8 คัน มีผู้บาดเจ็บ 9 คน ต่อมา วันที่ 20 มีนาคม เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน 5 คัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และวันที่ 4 กรกฎาคม รถพ่วง 22 ล้อ เบรกแตกชนรถคันอื่น 4 คัน มีผู้บาดเจ็บหลายคน
- ปี 2560 เกิดอุบัติเหตุ 5 ครั้ง คือ วันที่ 11 มกราคม รถพ่วง 22 ล้อเบรกแตกเสียหลักพุ่งชนรถหกล้อ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ เบรกแตก ชนรถยนต์หลายคัน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย วันที่ 9 มีนาคม รถบัสโดยสารพานักเรียนจาก จังหวัดขอนแก่นไปทัศนศึกษา ตกลงเหวข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บ 44 คน วันที่ 20 พฤษภาคม รถเก๋งพุ่งชนต้นไม้และเกิดเพลิงลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิต 5 คน และ วันที่ 2 ตุลาคม รถกระบะเสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 3 คน
- ปี 2566 เกิด อุบัติเหตุ 2 ครั้ง วันที่ 5 มกราคม รถบรรทุกพ่วงชนกัน ไฟลุกท่วมรถมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน และวันที่ 25 กุมภาพันธ์ รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ชนรถกระบะจนไฟลุกท่วม มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 3 คน
- ปี 2567 เกิดเหตุ อุบัติเหตุ 2 ครั้ง คือวันที่ 7 กุมภาพันธ์ รถบรรทุกยางก้อน เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลาง ชนรถกระบะ ทำให้คนขับรถบรรทุกเสียชีวิต และผู้โดยสารในรถกระบะบาดเจ็บ 2 คน และวันที่ 29 มีนาคมรถบัสคณะครูจากโรงเรียนเทพอุดมวิทยา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ชนรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ มีผู้บาดเจ็บ 13 คน และล่าสุดช่วง 03.00 น. วันนี้ ก็มาเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ซึ่งครั้งนี้ ถือว่ามีผู้เสียชีวิตเยอะที่สุด
อดีตขนส่ง จ.ปราจีนบุรี เตือนโค้งมรณะ
ด้านอดีตขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผย ว่าบริเวณโค้งทางลงเขาศาลปู่โทน ถือเป็นจุดอันตรายอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ที่มีอุบัติเหตุแรง ๆ เกิดขึ้นบ่อยมาก ในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุก รถพ่วง และรถบัส จึงขอแนะนำว่า 1.ถนนบริเวณนี้มี 3 โค้ง และลาดชัน ในลักษณะเป็น ถนนหลอกตา คือถ้านั่งอยู่บนรถ เหมือนถนนจะไม่ชัน แต่ถ้าลงมายืนบนถนนหัวแทบจะทิ่มเลย 2.หากไม่ชินเส้นทางบริเวณนี้ ไม่ควรใช้คนขับ มือสำรอง ควรใช้คนขับที่มีประสบการณ์มากกว่า 3.ถ้าวิ่งมาจากนครราชสีมา มุ่งหน้าเข้า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ควรอ่านป้ายเตือนข้างทาง และอย่าฝ่าฝืน! ควรใช้ความเร็วต่ำ ๆ ค่อย ๆ ไต่ลงเขา แต่ถ้ามาด้วยความเร็วสูง เจอสภาพถนนหลอกตา! ต้องเบรกบ่อย จนลมเบรกหมด รถก็คว่ำลงเหว 4.อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดช่วงลงเขา ถ้าวิ่งมาจากนครราชสีมา มุ่งหน้าเข้า อำเภอกบินทร์บุรี ก่อนถึง โค้งทางลงเขาศาลปู่โทน ประมาณ 1 กิโลเมตร ขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี ได้ทำ จุดพักรถ ไว้ให้ รองรับได้ประมาณ 10 คัน เพื่อให้คนขับหยุดพัก เพื่อลงมาเปลี่ยนอิริยาบถ ตรวจเช็กสภาพยางล้อรถ จึงขอแนะนำให้รถบรรทุก-รถบัส ควรหยุดพักรถ ก่อนวิ่งผ่าน โค้งทางลงเขาศาลปู่โทน
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35