เตรียมส่ง 'ลูกเทพ' ฟ้องศาลวันนี้ โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท
logo ข่าวอัพเดท

เตรียมส่ง 'ลูกเทพ' ฟ้องศาลวันนี้ โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท

ข่าวอัพเดท : ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่ นายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ อายุ 20 ปี ลูกชายของนางรุจิราภรณ์ หลาวทอง นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ ได้บุกเ ลูกเทพ,ศาล,ฟ้อง,ทุบรถ,แม่,ขอเงิน,บิ๊กไบค์,ประชด

9,760 ครั้ง
|
29 เม.ย. 2559
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่ นายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ อายุ 20 ปี ลูกชายของนางรุจิราภรณ์ หลาวทอง นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ ได้บุกเข้าไปใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ทุบกระจกด้านหลังรถยนต์ของนางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ ได้รับความเสียหาย ซึ่งนางวัทราได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้แล้ว ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
 
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 เม.ย.59 ที่สถานีตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ทำการสอบปากคำนายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายนี้เรียบร้อยแล้ว และจะได้นำตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องที่ศาล จ.ศรีสะเกษ ภายในวันนี้ เนื่องจากว่า นายกิติศักดิ์ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาที่ถูกกล่าวหาว่าทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งหลังจากที่ส่งฟ้องศาลไปแล้ว ศาลก็อาจจะพิพากษาในวันนี้ เนื่องจากผู้ต้องหารับสารภาพแล้ว และคดีไม่มีความซับซ้อนอะไร แต่อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีแพ่ง ซึ่งศาลอาจจะให้มีการพูดคุยเจรจาค่าเสียหายกับเจ้าทุกข์เสียก่อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล จ.ศรีสะเกษ ส่วนการยื่นขอประกันตัวนั้น เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับการประกันตัว เนื่องจากว่าเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย สามารถที่จะประกันตัวได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าแม่ของผู้ต้องหาหรือญาติจะมาทำการประกันตัวหรือไม่ เนื่องจากว่าผู้ต้องหาได้เคยก่อเหตุทุบรถมาแล้วถึง 9 คัน 
 
พล.ต.ต.สุรเดช กล่าวต่อไปว่า จากการที่ตนได้สอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นด้วยตนเอง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เหตุที่ไปทุบรถยนต์ของประชาชนนั้น สาเหตุเกิดจาก นางรุจิราภรณ์ หลาวทอง แม่ของผู้ต้องหา ได้ไปรับปากกับผู้ต้องหาแล้วว่า จะให้เงิน จำนวน 500,000 บาท กับผู้ต้องหา แต่ว่าเมื่อผู้ต้องหาทวงถาม นางรุจิราภรณ์ก็บ่ายเบี่ยง พยายามหลบหน้ามาโดยตลอด ซึ่งตนก็ถามว่า ทำไมต้องไปขอเงินแม่มากมายขนาดนั้น ผู้ต้องหาบอกว่า ต้องการนำเอาเงินไปซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อดัง และเห็นในบัญชีของแม่ว่ามีเงินอยู่ จึงได้ร้องขอเงิน แต่เมื่อถูกแม่ปฏิเสธ จึงได้ทุบรถยนต์ เพื่อเป็นการประชดแม่ และส่งสัญญาณให้แม่รู้ว่าตนจะทุบรถจนถึง 10 คัน จนกว่าแม่จะให้เงินตามที่ขอ แต่ว่าตนก็มาถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน ซึ่งคดีนี้จากการที่ตนสังเกตแล้ว ผู้ต้องหาไม่ได้ป่วยเป็นโรคจิตหรือต้องการบำบัดแต่อย่างใด แต่เกิดจากการที่ผู้ต้องหาได้รับการตามใจจากแม่มาตลอด เนื่องจากว่าเป็นลูกชายคนเดียว จึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งตนจะได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งจะได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลรักษาความปลอดภัยภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 เพื่อเป็นการเฝ้าระวังเหตุให้เจ้าหน้าที่ทุกคนในสำนักงานแห่งนี้ได้มีความอบอุ่นใจ ซึ่งตนจะรักษาความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่
 
ทางด้าน นางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นเจ้าของรถ กล่าวว่า การที่นายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายคดีนี้ถูกตำรวจจับกุมได้แล้วนั้น ตนรู้สึกดีใจมากที่ตำรวจสามารถทำการจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ตนต้องขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ศรีสะเกษ แต่ผู้ที่ดีใจมากกว่าตนก็คือ บรรดาข้าราชการที่อยู่ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 เนื่องจากว่า จะได้สบายใจว่า ไม่มีคนร้ายรายนี้มาเที่ยวตระเวนทุบรถอีกต่อไปแล้ว แต่ที่ตนสงสัยมากก็คือ เพราะเหตุใดผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 จึงได้มอบหมายให้นิติกรไปแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ในข้อหาที่นายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ บุกรุกสถานที่ราชการ เนื่องจากว่ามีการก่อเหตุอย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 9 ครั้งติดต่อกัน ตนจึงขอเรียกร้องไปยังผู้บริหารระดับสูง ให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อจะได้เป็นการทำให้บรรดาข้าราชการ และลูกจ้างประจำทุกคนรู้ว่าทำงานในสำนักงานแห่งนี้แล้วมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ใช่ปล่อยให้เหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ จนทำให้ข้าราชการในสำนักงานขวัญกระเจิง มาทำงานก็หวั่นเกรงว่ารถยนต์อาจจะโดนทุบช่วงเวลาใดก็ไม่รู้
 
 
 
 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง