ดีเอสไอ จ่อรวบรวมคดี สุเทพ เป็นคดีพิเศษ
logo ข่าวอัพเดท

ดีเอสไอ จ่อรวบรวมคดี สุเทพ เป็นคดีพิเศษ

6,320 ครั้ง
|
11 ธ.ค. 2556
ดีเอสไอ เตรียมรวบรวมคดี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รับเป็นคดีพิเศษพร้อมประสาน 3 ฝ่าย ร่วมดำเนินการ 
 
เมื่อเวลา 10.00 น. นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายพิชิต ชื่นบาน คณะทำงานด้านกฏหมาย พร้อมด้วยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)ให้ดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก ที่ได้ร่วมกันกระทำการก้าวล่วงพระราชอำนาจ และได้กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ 
 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นายสุเทพ กับพวกได้ปลุกระดมประชาชนให้ออกมาชุมนุม และปิดล้อมสถานที่ราชการ รวมทั้งทำเนียบรัฐบาล ซึ่งภายหลังได้มีพระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่นายสุเทพยังบังอาจอ่านแถลงการณ์ของคณะกรรมการ กปปส.โดยมีใจความสำคัญ ให้นายกฯ และครม.หยุดปฏิบัติราชการ และมีอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา สั่งให้นายกฯ และครม.ไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการ และมีคำสั่งให้ดำเนินคดีในข้อหากบฏกับนายกรัฐมนตรี รวมทั้งให้ ผบ.ตร. สั่งตำรวจทุกหน่วยถอนกลับที่ตั้งภายใน 12 ชั่วโมง
 
นายพร้อมพงษ์ ชี้ พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 113 วรรค 1 และวรรค 2 ฐานเป็นกบฎ ซึ่งศาลอาญาได้ออกหมายจับไปแล้วนั้น และการกระทำของนายสุเทพ ได้สร้างเงื่อนไขใหม่ โดยปลุกระดมมวลชนให้ล้มล้างรัฐบาล และเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองด้วยการกระทำผิดกฏหมาย อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และได้ก้าวล่วงพระราชอำนาจ ทั้งเป็นการร่วมกันกระทำการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112
 
ภายหลังจากที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดเผยการกระทำความผิดของนายสุเทพ และพวก ทางดีเอสไอได้พิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ โดยจะเข้าร่วมประชุมหารือกับพล.ต.ต.ชยุตม์ ธนธวีรัชต์ รอง ผบช.น. ในเวลา 13.00 น. เนื่องจาก ตำรวจนครบาล มีคดีที่รับผิดชอบ เกี่ยวกับนายสุเทพ และพวก โดยมีการกระทำความผิดต่อเนื่องต่างกรรมต่างวาระ รวมกว่า 40 คดี โดยจะประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมกันนั้นจะนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการคดีพิเศษ ในวันที่ 17 ธ.ค. เพื่อพิจารณาเป็นคดีพิเศษต่อไป โดยจะมีการประชุมผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย คือประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ , ผบ.ตร. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยการทำงานหลังจากนี้จะดำเนินการสอบสวนร่วมกัน 3 ฝ่ายคือตำรวจนครบาล กรมสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม พร้อมกันนั้นนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ยังได้ฝากถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขอให้ทั้งสองคน ได้ปฏิบัติตนในกรอบของกฏหมายในการเข้าพบอัยการ เพื่อส่งตัวฟ้องในวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ก่อเหตุซ้ำซาก เพื่อไม่ให้ต้องออกหมายจับต่อไป 
 
สำหรับกรณีที่นายสุเทพ ประกาศให้ข้าราชการไปรายงานตัวกับนายสุเทพ นั้น ในฐานะที่ตนเองเป็นข้าราชการ การออกคำสั่งของนายสุเทพ นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งตนเองนั้นไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่งของ กปปส.แน่นอน ซึ่งหลังจากนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ทำการยกระดับคดีที่เกี่ยวข้องกับนายสุเทพ เป็นคดีพิเศษ โดยยืนยัน จะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม พร้อมกำชับผู้ที่ไปเข้าร่วมและสนับสนุนอย่าได้กระทำการใดที่เข้าข่ายผิดกฏหมาย สำหรับกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ตั้งอยู่ในศูนย์ราชการนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีทรัพย์สินบางส่วนที่สูญหาย ซึ่งเป็นสมบัติของมีค่าของเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบมูลค่าความเสียหาย สำหรับสำนวนคดีสำคัญต่างๆ ไม่มีการสูญหายตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด