ผู้บังคับการนิติเวช ยอมรับพบผู้เสียชีวิตจากสารไพโรเจนเป็นครั้งแรก เตรียมส่งชิ้นส่วนพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง ชี้หากสูดดมเกิน 15 นาที ทำให้หมดสติและอันตรายถึงชีวิต ขณะเดียวกันบรรดาญาติก็ได้ทยอยมารับศพผู้เสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชแล้ว
พลตำรวจตรี นายแพทย์ พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ยอมรับว่า การเสียชีวิตของ 8 คนงานที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากการเสียชีวิตของสารไพโรเจน ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถทำหน้าที่ดับเพลิง ที่จะทำให้ก๊าซออกซิเจนในอากาศหมดไป
โดยผลการตรวจชันสูตรศพ เบื้องต้นทั้ง 8 ราย พบว่ามีสาเหตุเดียวกัน คือสมองขาดออกซิเจน ซึ่งจะเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ ส่งไปตรวจยังห้องปฏิบัติการหารายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากไม่เคยพบผู้เสียชีวิตจากสารนี้มาก่อน ขณะที่สมองพบว่ามีการเปลี่ยนสี ซึ่งแตกต่างจากผู้เสียชีวิตปกติ ที่สมองจะมีสีซีด แต่กรณีนี้ผู้เสียชีวิตมีสมองสีชมพูสดมากกว่าปกติ ซึ่งจะต้องส่งไปตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดกว่าสารเคมีชนิดดังกล่าว มีปฏิกิริยาต่อสมองอย่างไร- อย่างไรก็ตาม สำหรับสารไพโรเจนหากสูดดมเกิน 15 นาที จะทำให้หมดสติและเป็นอันตรายถึงชีวิต ในลักษณะค่อยๆ หมดสติจนไม่รู้สึกตัว
สำหรับญาติผู้เสียชีวิต หากมีความประสงค์จะติดต่อขอรับศพ สามารถนำเอกสารมาติดต่อรับได้ เนื่องจากสภาพศพยังอยู่ในสภาพปกติ เหมือนคนนอนหลับ สามารถระบุใบหน้าและรูปร่างได้อย่างชัดเจน
ด้านนางทองหล่อ คนการ มารดาของ นายยุทธนา คนการ ช่างซ่อมบำรุง หนึ่งในแปดผู้เสียชีวิต ติดต่อขอรับศพบุตรชายที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ กล่าวทั้งน้ำตาว่ายังคงทำใจไม่ได้กับการที่ต้องสูญเสียลูกชายไปอย่างกะทันหัน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีลางสังหรณ์ เพราะลูกชายก็จะมาส่งตนเองไปทำงานทุกเช้า และจะแยกย้ายไปทำงานต่อ จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิตกับเหตุการณ์ก๊าซรั่วเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้ก็จะนำลูกชายไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหลักสี่ ก่อนที่จะมีการหารือกับญาติพี่น้อง ในการฌาปนกิจต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้ก็มีหน่วยงานที่ติดต่อให้การช่วยเหลือครอบครัวในเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งที่ทำงานของลูกชายและธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ได้ส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุยเพื่อเป็นกำลังใจกับครอบครัวแล้ว
ด้านนางสาวหนูแดง แล่นโครต พี่สาวนายสายฝน แล่นโครต ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ก๊าซรั่วที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ได้เดินทางมารับศพน้องชายเช่นเดียวกัน โดยกล่าวว่า ยืนยันว่าน้องชายเสียชีวิตจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากตรวจสอบตามโรงพยาบาลต่าง ๆ แล้วไม่พบจนกระทั่งมาพบน้องชายที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งน้องชายเป็นช่างที่เข้าไปทำงานในธนาคารในช่วงเหตุการณ์ดังกล่าว รู้สึกเสียใจและยังคงทำใจไม่ได้ โดยทางครอบครัวจะนำร่างของน้องชายกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดบุรีรัมย์
โดยบรรยากาศการรับศพวันนี้ มีญาติทยอยมาติดต่อขอรับศพแล้ว 4 ราย ส่วนที่เหลืออีก 4 ราย ญาติได้ประสานสถาบันนิติเวชวิทยาแล้ว แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะมารับศพเมื่อใด
+ อ่านเพิ่มเติม