ผบช.ภ.1 แถลงรวบสามคนร้ายปล้นร้านทองสมุทรปราการ ยิงเจ้าของเสียชีวิต
logo ข่าวอัพเดท

ผบช.ภ.1 แถลงรวบสามคนร้ายปล้นร้านทองสมุทรปราการ ยิงเจ้าของเสียชีวิต

ข่าวอัพเดท : เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ธันวาคม 2558 ที่บริเวณหน้าร้านทองสุวิมลเยาวราช เลขที่ 1526/53-54 ซึ่งตั้งอยู่ปากซอยเทพารักษ์ 10 ตำ สมุทรปราการ,จับกุม,คนร้าย,ยิง,เจ้าของ,ร้านทอง,เสียชีวิต,กฎหมาย

4,918 ครั้ง
|
09 ธ.ค. 2558
     เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ธันวาคม 2558 ที่บริเวณหน้าร้านทองสุวิมลเยาวราช เลขที่  1526/53-54 ซึ่งตั้งอยู่ปากซอยเทพารักษ์ 10  ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1  , พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ , พ.ต.อ.นพดล  สุคนธวิท ผู้กำกับการตำรวจภูธรสำโรงเหนือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันนำตัวนายพัลลพ หรือ โทน ณะสูงเนิน อายุ 22 ปี , นายธนากร หรือนนท์ เพ็รชนิน อายุ 22 ปี และนายสมชาย หรือรัก วิเศษโวหาร อายุ 33 ปี สามผู้ต้องหาร่วมกันปล้นทรัพย์ ร้านทองสุวิมลเยาวราชสมุทรปราการ และใช้อาวุธปืนยิงนายสุพล  ชวาลากุล อายุ 56 ปี เจ้าของร้านทองดังกล่าวเสียชีวิต เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา เดินทางมาแถลงข่าวและทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังร้านทองสุวิมลเยาวราช ที่เกิดเหตุ ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่างต่างพากันเดินทางมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ และเจ้าหน้าที่ชุปราบจลาจลกว่า 50 นาย มาคอยรักษาความสงบ 
 
       สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายจำนวน 3 คนได้ใช้อาวุธปืนและอาวุธมีดดาบเป็นอาวุธบุกเข้าปล้นร้านทองสุวิมลเยาวราช เลขที่  1526/53-54 ซึ่งตั้งอยู่ปากซอย 10 เทพารักษ์ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ และคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงนายสุรพล ชวาลากุล อายุ 56 ปี เจ้าของร้านทองดังกล่าวเสียชีวิต ก่อนที่จะมาขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีขาวดำม่วง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้อหน้าใส่ล้อแม็ก 5 ก้านล้อหลังเป็นล้อซี่ลวดธรรมดา ที่มีคนร้ายอีกคนหนึ่งติดเครื่องรออยู่ที่หน้าร้าน หลบหนีไปโดยที่คนร้ายทั้งสามยังไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป
 
    หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกสืบหาเบาะแสคนร้ายโดยได้รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีระยะทางเกือบ 20 กิโลเมตร จนกระทั้งพบเบาะแสคนร้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้ และทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้งสามคือนายธนากร , นายสมชาย และนายพัลลพ ซึ่งมีอาชีพเป็น รปภ.ของบริษัทแห่งหนึ่งในย่านบางปู 
 
     โดยพบว่าวันที่เกิดเหตุคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากซอยเทศบาลบางปู 61 หรือซอยวังปลา ในพื้นที่ตำบลบางปูใหม่ ห่างจากร้านที่เกิดเหตุเกือบ 20 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันเข้าจับกุมตัวนายพัลลพ ได้ที่ป้อม รปภ.บริษัทแห่งหนึ่งในย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปู และจับกุมนายสมชาย ได้ในขณะที่ไปเดินเตรดเตร่อยู่ที่ท้องสนามหลวง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 ธันวาคม และเข้าจับกุมตัวนายธนากร ได้ที่บ้านภรรยาในจังหวัดนครพนม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ธันวาคม ก่อนทำการตรวจยึดของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 สีขาวดำม่วง ทะเบียน 1 กก-9795 จังหวัดร้อยเอ็ด  ล้อรถจักรยานยนต์แบบล้อแม็ก 5 ก้านจำนวน 1 วง ลำกล้องปืนขนาด .380 จำนวน 1 ชั้น สปิงลูกเลื่อนจำนวน 1 ชิ้น กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 16 นัด ซองปืนสีดำจำนวน 1 ซอง  อาวุธมีดดาบ ยาวประมาณ 50 เซนติเมตรจำนวน 1 เล่ม พร้อมด้วยเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันที่ก่อเหตุจำนวน 3 ชุด หมวกนิรภัย แบบเต็มใบ สีขาว และสีดำ จำนวน 2 ใบ
 
       จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสามทำงานเป็น รปภ.อยู่บริษัทเดียวกัน  แต่รายได้ไม่พอใช้ จึงได้ชักชวนกันมาก่อเหตุปล้นร้านทอง โดยมีนายธนากร  เป็นคนวางแผนและก่อนก่อเหตุประมาณ 10 วัน นายธนากร และนายพัลลพ ได้พากันขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนดูตามร้านทองตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเริ่มตั้งแต่ร้านทองในพื้นที่บางปู แต่เนื่องจากร้านทองในพื้นที่ดังกล่าวมีตำรวจประจำอยู่ จึงไม่เลือกก่อเหตุ ยังได้ตระเวนเข้ามาดูร้านทองในตลาดปากน้ำ แต่พบว่ามีตำรวจราจรและคนพลุพล่าน จึงไม่เหมาะกับการก่อเหตุ จนกระทั้งมาพบร้านทองสุวิมลเยาวราช ซึ่งเป็นร้านทองเพียงร้านเดียวที่ตั้งอยู่ริมถนน คนไม่พลุกพล่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจที่ร้านทองดังกล่าวเป็นครั้งคราว จึงเลือกลงมือก่อเหตุที่ร้านดังกล่าว โดยนายธนากร ได้ติดต่อซื้ออาวุธปืนมาจากพรรคเพียง 2 วันโดยให้นายสมชาย เป็นคนขับรถ ส่วนนายพัลลภ และนายธนากร เป็นคนเข้าไปลงมือก่อเหตุโดยใช้มีดดาบปืนเป็นอาวุธ 
 
        เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนกระทำผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงในความผิดที่ตนได้กระทำไว้  , ร่วมกันกันมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป