ตร.คุมตัวชายป่วยจิตในคลิปต่อยคนเดินถนนลาดพร้าวได้แล้ว
logo ข่าวอัพเดท

ตร.คุมตัวชายป่วยจิตในคลิปต่อยคนเดินถนนลาดพร้าวได้แล้ว

9,922 ครั้ง
|
16 ต.ค. 2558
ตำรวจสน.วังทองหลางควบคุมตัวชายต้องสงสัยก่อเหตุทำร้ายร่างกายประชาชนริมถนนลาดพร้าวได้แล้วเบื้องต้น รรท.ผบช.น.อยู่ระหว่างสอบปากคำ
 
 
 
ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลางอยู่ระหว่างการสอบปากคำ นายธีรพงษ์ ไม่ขอเปิดเผยนามสกุล อายุ 32 ปี ชายไม่ปกติที่ปรากฎในคลิปทำร้ายร่างกายประชาชนริมถนนลาดพร้าว ช่วงซอยลาดพร้าว 122-124 ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมา หลังควบคุมตัวได้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว 101 เนื่องจากมีพลเมืองดีพบเห็นชายลักษณะคล้ายกับผู้ก่อเหตุเดินไปมาอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจึงเข้าทำการตรวจสอบก่อนควบคุมตัวได้
 
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเดินทางมาสอบปากคำชายดังกล่าวเปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่าชายคนดังกล่าวมีอาการผิดปกติทางสมอง พูดจาวกไปวนมา แต่เบื้องต้นได้เชิญผู้เสียหายมาชี้ตัวผู้ต้องหาแล้ว ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่า ชายคนดังกล่าวเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากนี้คงต้องดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมายในความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้ผู้เสียหายจะไม่ติดใจเอาความก็ตาม เนื่องจากได้ปรากฎหลักฐานการก่อเหตุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้เตรียมนำตัวผู้ต้องหาส่งไปยังโรงพยาบาลศรีธัญญา เพื่อให้วินิจฉัยอาการผิดปกติทางสมอง ซึ่งหากพบว่ามีอาการผิดปกติทางสมองจริงก็อาจจะพิจารณาลดหย่อนโทษได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วย โดยเบื้องต้นคาดว่าแพทย์จะทำการวินิจฉัยให้ทราบได้ภายใน 1-2 วันนี้ ขณะเดียวกันอาจพิจารณาเอาผิดผู้ดูแลหรือญาติพี่น้องในความผิดฐานปล่อยปละละเลย ให้บุคคลวิกลจริตนั้นออกเที่ยวไปโดยลำพัง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 373 ซึ่งมีอัตราโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
 
นายสุรัตน์ จรูญไทสง อายุ 45 ปี ผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายเปิดเผยว่า ตนไม่ติดใจเอาความกับผู้ที่ก่อเหตุเนื่องจากทราบว่าเป็นผู้มีอาการผิดปกติทางสมอง ซึ่งหลังจากนี้ก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการ พร้อมฝากเตือนประชาชนทั่วไปให้ใช้ความระมัดระวังขณะเดินอยู่บนที่สาธารณะเพียงลำพัง เนื่องจากภัยลักษณะดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังได้ฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่ดูแลผู้ไม่ปกติให้ใช้ความระมัดระวังในการดูแลผู้ป่วยให้มากกว่านี้ไม่ให้ปล่อยออกมาทำร้ายประชาชนทั่วไปได้